สาวป่วยไข้หวัด เปิดใจถูกสั่งห้ามเข้าหอพัก หลังแพทย์สั่งกักตัว เจ้าตัวยอมรับมีส่วนผิดที่ออกไปข้างนอก

เปิดใจหญิงสาวป่วยไข้หวัด หลังถูกห้ามเข้าหอพัก เจ้าตัวยันไม่ติดโควิด-19 แต่ยอมรับมีส่วนผิดออกไปข้างนอกทั้งที่แพทย์ให้กักตัว 14 วัน

13 เมษายน 2563 เกิดเป็นประเด็นร้อนบนโลกโซเชียล เมื่อมีหญิงสาวรายหนึ่ง ร้องเรียนผ่านทนายรณณรงคฺ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ว่าป่วยไข้หวัด แพทย์สั่งกักตัวดูอาการ 14 วัน ถูกหอพักที่อาศัยอยู่ห้ามเข้ามาเก็บของใช้ส่วนตัว หลังทราบข้อมูลจากฝ่ายบุคคลของบริษัทที่ส่งข้อมูลมาให้ ทั้งที่เจ้าตัวยันไม่ได้ติดโควิด-19

อีจัน จึงโทรศัพท์สอบถามหญิงเจ้าของเรื่อง โดยเธอเล่าว่า เมื่อวันที่ 7 เมษายน ที่ผ่านมา ตนมีไข้เนื่องจากออกแดด และเข้าห้องแอร์ จึงไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ก็พบว่าเป็นไข้หวัด ไม่เข้าข่ายเกณฑ์การสอบสวนโรคโควิด-19 แต่ให้กักตัว 14 วัน ตนจึงส่งใบรับรองแพทย์ให้กับฝ่ายบุคคลที่ตนทำงานอยู่ได้รับทราบ และอนุมัติให้กักตัวตามที่ระบุในใบรับรองแพทย์
 
ทั้งนี้ ตนได้กักตัวเองอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งย่านพระราม 3 ซึ่งตลอดระยะเวลาตนไม่มีไข้เลย แต่เพื่อความมั่นใจ หลังจากกักตัวได้ 2 วัน ตนจึงตัดสินใจขับรถออกไปพบแพทย์อีกครั้ง ซึ่งผลก็ออกมาเช่นเดิมว่าไม่พบเชื้อโควิด-19 ระหว่างนั้นฝ่ายบุคคลของบริษัทได้โทรศัพท์มาสอบถามอาการ และได้ยินว่าตนอยู่ข้างนอก จึงสอบถามว่าเพราะเหตุใดตนจึงไม่กักตัว ซึ่งตรงนี้จนก็ยอมรับว่าเป็นความผิดของเราจริงที่เราออกไปข้างนอก ไปตลาด

ซึ่งเรื่องนี้ตนก็ได้แจ้งไปกับฝ่ายบุคคลบริษัทว่า ตนอยู่ห้องคนเดียวไม่มีใครส่งข้าว ส่งน้ำให้ตน แต่ตนก็ป้องกันตัวเองโดยมีการใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมถึงส่วนหนึ่งเราก็มั่นใจว่าเราไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ
 
จากนั้นทางผู้ดูแลหอพักก็ได้ส่งข้อความมาหาตนเองพร้อมกับส่งใบรับรองแพทย์ที่ได้รับจากทางฝ่ายบุคคลมาให้ตนเอง และแจ้งว่า ฝ่ายบุคคลทางบริษัทของตนให้หอพักแจ้งกรมควบคุมโรค เพราะตนไม่กักตัว ทำให้รู้สึกแปลกใจว่าเพราะเหตุใด ทางบริษัทจึงส่งข้อมูลส่วนตัวให้กับบุคคลที่สาม


ตนจึงตัดสินใจแจ้งกับหอพักว่าจะกลับไปอยู่ที่บ้านพักในกรุงเทพฯ แทนเพื่อความสบายใจ พร้อมแจ้งกับหอพักว่าจะขอเข้าไปเก็บของ แต่กลับถูกสั่งห้ามเข้ามาที่หอพัก แม้แต่รถก็ห้ามขับเข้ามา ผิดกฎหมาย ไม่เช่นนั้นจะแจ้งตำรวจ

ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ให้คนในครอบครัวไปขนของออกมาให้แค่บางส่วน เพราะตอนนี้ตนมาอยู่บ้านแม่แล้ว ของใช้บางอย่างตนก็ตัดสินใจซื้อใหม่
 
 
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ตนรู้สึกถูกเหมือนถูกบูลลี่ ทั้งที่ไม่ได้ป่วยโควิด-19 และผลการตรวจก็ไม่พบเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด ทั้งนี้ตนยอมรับว่าก็มีส่วนผิดที่ไม่ได้กักตัวเองในห้อง แต่ต้องเข้าใจว่าตนอยู่คนเดียว และต้องออกไปซื้อข้าวของมารับประทาน แต่ก็มีการป้องกันตัวเองรวมถึงคนรอบข้างเป็นอย่างดี ซึ่งตนเองยังโชคดีที่มีบ้านอยู่ในกรุงเทพฯ แต่หากเรื่องนี้เกิดกับคนที่บ้านอยู่ต่างจังหวัด จะทำอย่างไร

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน