เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งนักแสดงรุ่นใหญ่ที่โดนผลกระทบจากโควิด19 อีกเช่นกันอย่าง หมู กลศ อัทธเสรี หลังต้องพักงานจากกองละครยาว ล่าสุดออกมาเปิดใจในรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง One 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และใบเฟิร์น พัสกร เป็นพิธีกร พร้อมเผยประสบการณ์เฉียดตายกลางกองถ่ายจนกลายเป็นปมจนถึงทุกวันนี้ และฟังจากปากถึงเหตุการณ์ลี้ลับกลางกองละครเวทีเหตุเพราะเล่นพิเรนทร์ ทำเอาต้องรีบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นการด่วน !!
ภาพจากอีจัน
ช่วงโควิดติดอยู่ที่บ้านเบื่อมั้ย เห็นชอบขี่จักรยาน วิ่งรอบหมู่บ้าน ? หมู : มันต้องหยุดหมดเลย เราต้องหยุด ถ้าเราไม่หยุดก็มีโอกาสไปแพร่เชื้อให้กับคนอื่นได้ ต้องทำกิจกรรมในบ้าน โชคดีผมเรียนช่างศิลป์ เขียนรูป ก็เล่นดนตรี แต่งเพลง มันทำให้เราไม่ฟุ้งเฟ้อ
ภาพจากอีจัน
ในฐานะของหัวหน้าครอบครัวละครหยุดถ่ายแบบนี้กังวลมั้ย ? หมู : ตอนนี้มันเป็นสถานการณ์ของโลกไม่ใช่แค่ของประเทศไทย เพราะฉะนั้นทุกคนเหมือนกันหมด ทุกคนตกงานหมด ทุกคนไม่มีรายได้หมด ทุกคนต้องอยู่กับสิ่งที่ไม่เคยเจอในชีวิต ปีนี้ผม 61 แล้ว ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้ จากที่เราไม่มีแล้วเราหยุดไป 2 เดือน เราพอจะดูแลตัวเองได้ แต่จากนี้ผมจะเริ่มมีงานอีกเมื่อไหร่ แล้วอาชีพของผมคือละคร ทีมงานละครตีซะประมาณ 100 คน แล้วถ้าเขาปลดล็อกมานิดนึง แล้วเราได้ออกไปทำงาน เกิดมีคนติดขึ้นมาทีนี้มันจะเป็นเรื่องใหญ่ คือช้าๆ ได้พร้าเล่มงามน่าจะดีที่สุด
ภาพจากอีจัน
เห็นเฟี้ยวๆ แบบนี้แต่เคยเฉียดตายมาแล้ว ตกม้าเหรอ ? หมู : มันเป็นอุทาหรณ์ให้นักแสดงทุกคน ตอนนั้น 30 กว่าปีมาแล้ว คือต้องไปขี่ม้าเรื่องเสราดารัล ตอนนั้นพี่แด๊ก ลิขิต เอกมงคล เป็นพระเอกกับนุสบา ตอนนั้นเล่นเรื่องแรก ก็ไปซ้อมม้าแต่ด้วยความที่ขี้เกียจ ไม่อยากไป คิดว่าไม่มีอะไร มันก็ต้องควบม้าเป็นขบวน ม้าของลิขิตเป็นตัวเอก แล้วก็ม้าของอาดาม ดัสกร แล้วเราต้องคู่ไปกับเขา แล้วเราต้องสะพายปืนไว้ข้างหน้าด้วยเป็นเอ็ม 16 แล้วช่วงที่ควบม้ามันตีหน้าเรา เราก็เลยจะเอาไปไว้ข้างหลัง จังหวะที่กำลังจะเอาปืนไปไว้ข้างหลังเท้าเราหลุดจากโกลน แล้วม้ามันโดดเราก็หล่นหมอบลงกับพื้น ม้าที่วิ่งตามมาข้างหลังอีก 20 กว่าตัว วิ่งข้ามเราไป แต่เราต้องมีสติไม่ลุกขึ้นมาเพราะมันจะเตะหัวกะโหลกกระจาย คือนอนจมฝังดินไปเลย พอขบวนม้ามันไปเราค่อยลุกขึ้นมา ไม่มีเจ็บอะไรแต่ในปากทรายทั้งปาก จนทำให้เป็นปมเลย ?
หมู : มันก็เป็นปมว่าเวลาเราได้เล่นละคร เราได้รับบทขี่ม้า พายเรือ เราต้องไปซ้อม เพราะว่ามันจะทำให้เสียเวลากองถ่ายเขา เคราะห์ดีว่าตอนนั้นไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเป็นอะไรขึ้นมามันจะเสียเวลากองถ่ายเขา
บาดเจ็บจากคิวบู๊มาเยอะจนอยากจะเลิกรับละครบู๊มั้ย ?
หมู : ตอนหลังมานี่ด้วยอายุก็เป็นรุ่นใหญ่ไปแล้ว เป็นพวกสั่งให้เขาไปยิง มันไม่ต้องบู๊ แต่บู๊ก็ยังได้อยู่
ภาพจากอีจัน
อาหมูผลงานเยอะมาก ไม่ใช่แค่ละครทีวี ละครเวทีก็เล่น แล้วเคยเจอประสบการณ์ลี้ลับเกี่ยวกับละครเวทีด้วย ? หมู : เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องเอ่ยชื่อ พี่เบิร์ด ธงไชย พี่เบิร์ดเขาคือมือหนึ่งของประเทศอยู่แล้ว ก็ได้ไปเล่นเรื่องอโรคาเมื่อประมาณ 20 ปีได้แล้ว มีผม เหมี่ยว ปวันรัตน์,กอล์ฟ เบญจพล,เสนาหอย ตอนนั้นเล่นที่ศูนย์วัฒนธรรมพี่เบิร์ดก็บอกว่า หมูเอ็งเป็นหัวหน้าทีม ที่นี่เขามีของ อย่าพูดคำหยาบ ให้ประหยัดคำพูด บันไดจะมีซ้ายขวาอย่ากระโดดลง อย่าปีนขึ้นจากเวทีให้ใช้ขึ้นลงบันได ผมเลยบอกว่าพี่เบิร์ดเอาตัวให้รอดเถอะ พี่ร้องตั้ง 20 กว่าเพลง พวกผมคนละเพลง สองเพลง ไปกวนตีนเขาอีก เขาปรารถนาดีกับเราแท้ๆ หลังจากนั้นพี่เบิร์ดก็ไปซ้อมร้อง ซ้อมเต้น พวกผมก็อยู่ข้างล่าง หนังเรื่องล่ากำลังดัง ตอนนั้นพี่นกสินจัยเล่น พี่นกโดนข่มขืน ผมก็บอกว่าเรามาเล่นเรื่องล่ากันดีกว่า จับพี่เหมี่ยว ปวันรัตน์ ข่มขืน เสนาหอย กับ กอล์ฟ จับขึงแล้วไฟก็ดับพรึ่บ พี่เบิร์ดก็เดินลงมาว่าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ได้ยังไง เราก็ไหว้กันแล้ว มีใครพูดคำหยาบหรือเปล่า เราก็บอกว่าเราเปล่า ผมแค่ข่มขืนพี่เหมี่ยวเท่านั้นเอง พวกผมต้องไปไหว้ขอขมาว่าจะไม่เล่นอะไรแบบนี้อีก ที่เล่นตอนนั้นเพราะหนังเรื่องนั้นมันดังมาก เอามาล้อกันเล่นก็มันไม่มีอะไรทำ ก็หลอนพอสมควร หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปมันทำให้รู้ว่าอะไรที่เรามองไม่เห็นอย่าไปลบหลู่
ภาพจากอีจัน
ไฟดับอยู่นานมั้ย ? หมู : ก็พอสมควร พอเราไปไหว้ไปขอ ทุกอย่างก็กลับมาปกติ พอมาอีกเรื่องนึงที่โรงละครรัชดาลัยเรื่องหงส์เหนือมังกร พี่บอย ถกลเกียรติ จะเป็นคนเซฟนักแสดงมากที่สุด ถ้ามีอะไรพี่บอยจะให้หยุด แต่เรื่องนั้นตอนซ้อมนักแสดงเจ็บแทบทุกวัน เจ็บอย่างละนิดอย่างละหน่อย พี่บอยก็เลยไปเชิญซินแสมา ซินแสที่เขารู้เรื่องจีน พอเขาเห็นป้ายชื่อละครเขาก็บอกว่าใช้ชื่อแบบนี้ไม่ได้ หงส์จะเหนือคำว่ามังกรไม่ได้เพราะว่าของจีน มังกรใหญ่สุด แล้วได้ไปไหว้เทพของจีนหรือยัง ได้ไปไหว้ที่เยาวราชหรือยัง เชื่อมั้ยพอทำพิธีอะไรเรียบร้อย จากนั้นไม่มีใครบาดเจ็บอีกเลย จะให้ผมคิดยังไง แต่จะมีผู้ใหญ่ 3 คนที่ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยเลย คือผม ครูมืด พี่โย ญาณี ตราโมท เพราะพวกผมเวลาจะขึ้นเวที เวลาจะลงจากเวทีหรือเวลาจะเข้าไปเล่น พวกผมจะไหว้ขอขมาลาโทษสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายก่อนบนเวทีทุกครั้ง 2 เหตุการณ์นี้ผมค่อนข้างเชื่อ