จัน มีโอกาสไปเห็นโพสต์ของ คุณกิ๊ฟท์ ฐิตารีย์ เถรกุล สาวชาวไทย อายุ 35 ปี อาศัยอยู่ที่อเมริกา เธอแต่งงานกับ โทมัส เมอร์รี่ ชาวอเมริกัน ดูท่าชีวิตของสาวไทยคนนี้จะปกติสุข เหมือนคนทั่วไป แต่กลับไม่!
เธอรู้ว่าเป็นมะเร็งเต้านม ตอนท้องลูกสาว ได้ไม่กี่เดือน คุณหมอบอกว่า มะเร็งกัดกินร่างกายเธออย่างหนักจนต้องรีบทำคีโม แต่แน่นอน ถ้าเธอรับคีโม สารเคมี จะส่งผลกระทบกับลูกในท้องแน่ ซึ่งแน่นอน วิญญาณความเป็นแม่ของเธอ มีเยอะมาก เธอเลือกที่จะไม่รับคีโม รอจนกว่าจะคลอดก่อน เพราะลูกเปรียบเหมือนรางวัลในชีวิต
คุณกิ๊ฟท์ บอกกับอีจันว่า เธอสงสัย ทำไมคนเฮลตี้ อย่างเธอ ที่ดูแลตัวเองอย่างดี ถึงช่างโชคร้ายเหลือเกิน
คุณกิ๊ฟท์ ได้เล่าเรื่องราวของตัวเอง ผ่านเพจที่ชื่อว่า A.Kindness Family ถึงการสร้างกำลังใจ และความสุขที่สุดที่ได้มีลูกน้อย เหมือนได้รางวัลชีวิต รางวัลชิ้นใหญ่ที่หาสิ่งเปรียบไม่ได้
ไคนด์เนส คือชื่อของลูกสาวเธอ และคุณกิ๊ฟท์ ตัดสินใจเล่าเรื่องราวการต่อสู้โรคร้ายนี้ เรื่องราวของสาวป่วยมะเร็งแม่ลูกอ่อน ผ่านเพจของลูกสาว ที่เธอสร้างขึ้น คุณกิ๊ฟท์บอกเสมอว่า แม่ได้เป็นผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย เพราะมันไม่ใช่สุดท้ายของความสุขแม่ แต่แม่เป็นผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะที่4 หรือระยะแพร่กระจาย #stage4strong
คุณกิ๊ฟท์ บอกว่า มองมะเร็งให้เป็นธรรมชาติ เกิด แก่ เจ็บ ตาย คือวงจรชีวิต โรคมะเร็งคือส่วนหนึ่งของการเจ็บป่วย การเจ็บป่วยคือส่วนหนึ่งวงจรชีวิต ซึ่งทุกคนต้องเจอ แต่อาจจะเจอในรูปแบบไม่เหมือนกัน เร็ว ช้า แตกต่างกันไปค่ะ
การรักษาของแม่กิ๊ฟท์ เริ่มขึ้นหลังคลอดลูกสาว ตอนนี้ผ่านมาถึงคีโมครั้งที่ 5 พร้อมการเจริญเติบโต รอยยิ้มและพัฒนาการ ที่น่ารักของไคนด์เนส ด้วยวัย 4 เดือน #มะเร็งแม่ลูกอ่อน
คุณกิ๊ฟท์ บอกว่า แม่ขอบคุณโอกาสที่คีโม และหมอทุกคนให้แม่ ได้ยืดระยะเวลาในการดูการเติบโตของไคนด์เนส
ได้เห็นลูกมองเห็นโลกใบนี้ในทางที่แม่เคยเห็น ด้านเมตตา ความสุข เอื้อเฟื้อ และอีกมากมาย การได้เห็นไคนด์เนส เติบโต คือสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจของแม่มาก
แม่ชอบหัวเราะทุกวันและบอกกับไคนด์เนสว่า แม่เป็น IRONGIFT [แปลงมาจากไอร่อนแมน] แม่มีอะไหล่ที่หน้าอก และ แขน เพื่อให้คีโม แม่กิ๊ฟท์ชอบสร้างเสียงหัวเราะ เล่นมุกตลก ให้ครอบครัว จนบางทีเขาก็นึกว่าแม่กิ๊ฟท์ เมากัญชา แต่เปล่านะคะ แม่คิดบวกเหลือเกิน
แม่กิ๊ฟท์ บอกว่า การสร้างกำลังใจต้องมาจากตัวแม่เอง แต่แรงบันดาลใจนั้นมาจากคนรอบข้างที่ส่งให้แม่ แรงบันดาลใจมาก่อน แล้วสมองจะสั่งการว่าจะต้องอดทน เพื่ออะไร แล้วกำลังใจจะพุ่งออกมาพร้อมเป้าหมาย ว่า แม่ต้องดีขึ้น แข็งแรงขึ้น ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายของแม่ คือ การที่เห็นไคนด์เนส เติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ ในชีวิตที่เรียนรู้คำว่า ธรรมดา ไม่ปรุงแต่ง และไม่เป็นภาระของสังคม
เรื่องของแม่ ที่เคยโพสต์ตามลิงค์ มีหลายท่านให้กำลังใจมากมายเหลือเกิน ครอบครัวไคนด์เนส ขอขอบพระคุณมากๆ ค่ะ และบางท่าน ถามว่า ทำไมไม่รักษา ตอนนั้น และ บางท่านถามว่า ทำไมแม่กิ๊ฟท์เลือกตัดสินใจแบบนี้
โพสต์ก่อนหน้า : https://bit.ly/2G8zgMF
แม่กิ๊ฟท์ขออนุญาตใช้พื้นที่อธิบายตรงนี้อีกครั้งว่า ในการตัดสินใจของแม่ คือสิ่งคุ้มค่า ที่สุดในชีวิตแม่ ณ เวลาตรงนั้น ต่างคนต่างมีความคิดไม่เหมือนกัน และนี่คือเหตุผลของกิ๊ฟท์
แม่กิ๊ฟท์ บอกว่า แม่ใช้ชีวิตได้คุ้มมากแล้ว ไปเที่ยวหลายๆ แห่งที่อยากไป ดูแลบุพการีอย่างดี เรียนจบการศึกษาที่พอใจ ชีวิตครอบครัวที่ลงตัว ได้กิน ได้มีทุกอย่าง ที่ธรรมดา แต่…มีความสุขมากๆ สำหรับแม่แล้ว ตอนนี้แม่กำลังใช้ กำไรชีวิตที่มีคุณค่ามาก คือ การมีไคนด์เนส เพิ่มมาในชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ ไม่มีสิ่งใดเปรียบเทียบได้
เพราะคำว่า”โอกาส”สำคัญมาก
แม่เล่าย้อนว่าตอน ไคนด์เนส ยังอยู่ในท้องอ่อนๆของแม่ ตอนนั้น ลูกยังเล็กมากเหลือเกินที่จะรับ คีโม หรือ ต้องคลอดก่อนกำหนด หรือ เหตุผลร้ายแรงคือการยุติการตั้งครรภ์
โอกาสคือสิ่งที่แม่เลือกให้ ไคนด์เนส ตั้งแต่อยู่ในท้อง แม่บอกว่า แม่รับไม่ได้ ที่จะรักษา ตอนมี ไคนด์เนส ในท้องแม่กลัว (คุณหมอหลายท่านอาจจะบอกว่าปลอดภัย) แต่ความเป็นแม่ แม่กลัว คีโม จะทำให้ไคนด์เนส นิ้วหาย เพดานโหว่ คลอดก่อนกำหนด ไม่แข็งแรง ตั้งท้องแบบเครียด (แม่อาจจะความรู้ไม่มาก แต่แม่กลัวมาก) แม่อยากให้ ไคนด์เนส ลืมตามาพร้อมความสุข แม่ตัดสินใจแน่วแน่ พร้อมพูดกับตัวเองว่า แม่จะไม่ให้ ไคนด์เนส มีส่วนในความเจ็บป่วยของแม่
แต่แม่เลือกที่จะให้ไคนด์เนสเป็นส่วนหนึ่งของความสุขในชีวิตแม่ค่ะ เพราะความสุขจากไคนด์เนส คือ ความสุขที่ประเมินค่าไม่ได้เลย
และสิ่งที่แม่เลือกคือ ได้เห็นไคนด์เนส คลอดออกมาสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ แค่นี้ แม่กิ๊ฟท์ก็มีความสุขมากเหลือเกิน
กิ๊ฟท์อยากให้การเจ็บป่วยของกิ้ฟท์ เป็นประโยชน์ต่อหลายๆท่านค่ะ เพื่อเป็นทาน และประโยชน์ ต่อทุกท่านค่ะ แล้วจะมาอัพปเดตพลังบวกกับการรักษาเรื่อยๆ นะคะ
สำหรับการรักษา จะอัปเดตจริงจัง หลังคุณหมอวางแผนจริงจังค่ะ เพราะช่วงนี้ คุณหมอรักษาแบบตามผลสแกนก่อน เพราะ ในกรณีของกิ๊ฟท์ตรวจปุ๊ประยะ4 ปั้บ จึงวางแผนไม่ได้ ต้องควบคุมโรคเพื่อไม่ให้ขยายก่อนค่ะ ขอบคุณค่ะ
แม่กิ๊ฟท์เล่าให้อีจันฟังอีกว่า เธอมีก้อนนี้มา 20 กว่าปีแล้ว ก่อนหน้านี้คุณหมอแจ้งเธอว่ามันเป็นแค่ก้อนซีส จนมันแปลงร่างเป็นมะเร็งรู้ก็ตอนตั้งท้องลูกสาวคนนี้
เธอฝากเตือนทุกคนถ้าอ่านเรื่องนี้อยู่ หากมีก้อนอะไรผิดปกติ ให้ไปหาหมอเพื่อเช็กให้ละเอียด และผ่าออกเลย
วิญญาณความเป็นแม่ของ คุณกิ๊ฟท์ ถ่ายทอดความรักออกมาได้ดีมาก
รอติดตามคลิปของ คุณแม่กิ๊ฟท์ นะคะ เธอจะมาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความรักของ คุณแม่ ที่ยอมสละชีวิตตัวเองสู้กับโรคมะเร็งโดยไม่ให้เคมี เพื่อสร้างชีวิตให้กับลูกสาว
ยอมเสี่ยงมะเร็ง เพื่อให้ลูกในท้องแข็งแรง มะเร็งแม่ลูกอ่อน