30 ต.ค. 63 สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ จะระงับสิทธิประโยชน์ทางการค้าพิเศษ สำหรับสินค้าไทยบางประเภท ภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร หรือจีเอสพี (GSP) โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 63
ทรัมป์ ระบุว่า “ผมพิจารณาแล้วว่าไทยไม่ได้ทำให้สหรัฐฯ มั่นใจว่าไทยจะจัดสรรการเข้าถึงตลาดของตนอย่างเท่าเทียมและสมเหตุสมผล จึงมองว่าการระงับสิทธิปลอดภาษีภายใต้ระบบจีเอสพี สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์บางรายการของไทยนั้นเป็นเรื่องเหมาะสม”
ภาพจากอีจัน
ซึ่งเรื่องนี้ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้แถลงว่า การตัดสิทธิ GSP ของสหรัฐฯ เป็นประเด็นการ เปิดตลาดหมู และผลิตภัณฑ์ เนื่องจากสหรัฐฯ มองว่าการเปิดตลาดสินค้าของไทย ไม่อยู่ในระดับที่เท่าเทียมและสมเหตุสมผล ซึ่งไทยได้ชี้แจงอย่างต่อเนื่องถึงผลกระทบด้านสุขภาพและสุขอนามัยของประชาชน
สำหรับ รายการสินค้าไทยที่ถูกตัดสิทธิพบว่ามี 231 รายการ โดยเป็นสินค้าที่ผู้ประกอบการแจ้งใช้สิทธิจีเอสพีใน 2562 จำนวน 147 รายการ มูลค่าการนำเข้าประมาณ 604 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นภาษีที่ต้องกลับไปเสียในอัตราปกติมูลค่าประมาณ 19 ล้านดอลลาร์
ภาพจากอีจัน
ส่วนสินค้าที่ได้รับผลกระทบ เช่น อุปกรณ์ชิ้นส่วนยานยนต์ และส่วนประกอบ พวงมาลัยรถยนต์ ล้อรถยนต์ กระปุกเกียร์ กรอบโครงสร้างแว่นตาทำด้วยพลาสติก เคมีภัณฑ์ เกลือฟลูออรีน ที่นอนและฟูกทำด้วยยางหรือพลาสติก หลอดและท่อทำด้วยยางวัลแคไนซ์ อะลูมิเนียมเจือแผ่นบาง เป็นต้น สำหรับ จีเอสพี เป็นโครงการสิทธิพิเศษทางการค้าขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ ด้วยการอนุมัติสินค้าราว 3,500 รายการ จากประเทศและดินแดนที่กำหนดกว่า 100 แห่ง ให้สามารถนำส่งสินค้าเข้าสหรัฐฯ โดยไม่ต้องเสียภาษี