เกิดซ้ำซาก! นศ.อุเทนถวาย ถูกยิงบาดเจ็บ ก่อน “วันบลูเดย์”

เหตุการณ์แบบนี้เกิดซ้ำซาก! นศ.อุเทนถวาย ถูกยิงบาดเจ็บ ก่อน “วันบลูเดย์” แม้ตำรวจจะเฝ้าระวัง แต่คนจ้องกับคนระวังแตกต่างกัน!

เหตุการณ์แบบนี้ยังคงเกิดขึ้นซ้ำซาก

นักศึกษาสถาบันนักศึกษาอุเทนถวาย ถูกพยายามฆ่ากลางกรุง ก่อนถึงวันคล้ายวันสถาปนาของมหาวิทยาลัยฯ

มาตราการรักษาความปลอดภัยของตำรวจนครบาล วางกำลังเฝ้าระวัง “วันบลูเดย์” ตรงกับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย

คนจ้องกับคนระวังแตกต่างกัน!! เวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 29 มกราคม 2568 คนร้าย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ สวมหมวกกันน็อค ใช้ปืนกระหน่ำยิงกลุ่มนักศึกษาอุเทนถวาย ขณะเดินบนทางเดินหน้าคณะเภสัช ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพ

นายนราวิชญ์ หรือ ติว อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขา โลจิสติกส์ คือเหยื่อ!! ล้มลงกับพื้น

“ตำรวจยืนปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังหน้าสถาบัน เวลานั้นนักศึกษาที่มาทำกิจกรรมทยอยเดินทางออกจากสถาบัน สักพักได้ยินเสียงปืนหลายนัดทางฝั่งคณะเภสัช ทางตำรวจเห็นเหตุการณ์บางส่วนขึ้นรถยนต์ไล่ติดตามผู้ก่อเหตุที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ตำรวจหลายนายวิ่งประมาณ 500 เมตร จุดที่มีกลุ่มนักศึกษามุงดู พบนักศึกษาบาดเจ็บถูกยิงด้านหลังทะลุหน้าอก 1 นัด ตำรวจช่วยกันปฐมพยาบาล ถอดเสื้อของนักศึกษามากดบริเวณแผลที่ถูกยิงจากนั้นเคลื่อนรถยนต์ของตำรวจมาโดยมีเพื่อนของนักศึกษาที่บาดเจ็บยกนักศึกษาขึ้นท้ายรถยนต์กระบะนำพานักศึกษาที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลตำรวจ ” ตำรวจ คฝ. เล่าเหตุการณ์

ขณะเดียวกันแม่ของน้องติว เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ (29 ม.ค.) ตนเองพักอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนลูกชายพักอยู่กับคุณตา ที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อคืนนี้เพื่อนของลูกชาย โทรศัพท์มือถือบอกว่าลูกชายถูกยิง แม่ตกใจมากรีบเดินทางมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา มาที่ รพ.ตำรวจ เพื่อนของลูกชายเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคร่าว ๆ ให้ฟัง ล่าสุดเช้าวันนี้ (30 ม.ค.) แพทย์บอกว่า ลูกชายพ้นขีดอันตรายแล้วจึงเข้าไปเยี่ยมในห้องไอซียู ได้แป๊บเดียว รู้กสึกสบายใจที่ลูกชายปลอดภัย หลังจากนี้จะเข้าไปแจ้งความกับตำรวจ สน.ปทุมวัน

“ลูกชายอยากเรียนที่นี่สาขาที่ลูกชายชอบ พ่อแม่ก็ไม่ว่าทั้งที่รู้ว่าลูกชายอาจไม่ปลอดภัย ก็ได้แต่บอกว่าให้ตั้งใจเรียน ดูแลตัวเองให้ดี ๆ ซึ่งลูกชายก็รับปาก เราโทรคุยกันทุกวัน ลูกชายจะไปไหนทำอะไรกลับเวลาไหนเขาโทรบอกตลอดรู้ว่าพ่อแม่เป็นห่วง สอนอะไรก็เชื่อฟัง ยอมรับตรง ๆ ว่า ลูกฉันเป็นคนดีในสายตาที่อยู่กับเรา แต่พ้นสายตาเรา ๆ ก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นอย่างไร จึงกล้าพูดแบบนี้ ส่วนคนที่ก่อเหตุเราก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ฝั่งตรงข้ามหรือไม่เราไม่อยากปรักปรำเพราะเขาเสียหายสถาบันเสียหายได้ ทำหรือไม่ได้ทำเขารู้แก่ใจ ก็อยากบอกตำรวจว่าขอให้จับคนที่ก่อเหตุที่แท้จริงให้ได้”