ซุปโอมิครอน คืออะไร

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ แจงที่มาชื่อ ซุปโอมิครอน หรือเรียกแบบไทย ๆ ว่า รวมมิตรโอมิครอน ซึ่งเป็นไวรัสกลายพันธุ์ของโควิด

วันนี้ (3 พ.ย.65) เพจศูนย์จีโนมทางการแพทย์ (Center for Medical Genomics) คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ทำไมถึงเรียกว่า “ซุปโอมิครอน” โดยระบุว่า…

วลี (อังกฤษ) “ซุปโอมิครอน” เป็นการเรียกขานโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญโควิด-19 ทั่วโลกบ่งชี้ให้เห็นถึงความหลากหลายตามธรรมชาติของการกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนา 2019 ที่เปลี่ยนไปในยุคของ “โอมิครอน”

ในช่วง 2 ปีแรกตระกูลใหญ่ของโคโรนาไวรัส 2019 ซึ่งมีรหัสพันธุกรรมแตกต่างกันอย่างมากได้เกิดขึ้นและถูกแทนที่ด้วยตระกูลใหญ่ถัดไปอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ตระกูลไวรัสอู่ฮั่น ได้ถูกแทนที่ด้วยตระกูล อัลฟา, เบตา, แกมมา, เดลตา และโอมิครอน ตามลำดับ

ย่างเข้าสู่ช่วงปีที่ 3 ในยุคของตระกูลโอมิครอนกลับมีวิวัฒนาการเกิดเป็นสายพันธุ์ย่อยมากกว่า 300 สายพันธุ์ (omicron subvariants) พร้อมกัน

ที่น่าสนใจมากคือส่วนหนามของโอมิครอนแต่ละสายพันธุ์ย่อย มีตำแหน่งกลายพันธุ์ทั้งที่ซ้ำกับสายพันธุ์โอมิครอนดั้งเดิมประหนึ่งเป็นการรีไซเคิล (recycle) นำตำแหน่งการกลายพันธุ์ดั้งเดิมที่ใช้ได้ผล (ในการหลบเลี่ยงภูมิ หรือจับกับผิวเซลล์) กลับมาใช้ใหม่ผสมผสานกับการกลายพันธุ์ตำแหน่งใหม่ ซึ่งจำเป็นใช้แข่งขันกันเองเพื่อการอยู่รอดในหมู่ของโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย

ในยุคโอมิครอนที่มีสายพันธุ์ย่อยอุบัติขึ้นมามากมาย จึงเปรียบเสมือนเป็นองค์ประกอบของซุป หากเป็นวลีไทยอาจเรียกว่า “รวมมิตรโอมิครอน” ก็เป็นได้ โดยแต่ละภูมิภาคของโลกจะมีการระบาดของโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยที่แตกต่างกัน

ด้าน รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กอัปเดตสถานการณ์โควิด 19 ว่า องค์การอนามัยโลกออกรายงานประจำสัปดาห์ WHO Weekly Epidemiological Update เมื่อคืนนี้ 2 พ.ย.65 ว่า …

สถานการณ์ระบาดรายสัปดาห์ล่าสุด มีอัตราการติดเชื้อใหม่และการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นชัดเจนทั้งในทวีปอเมริกา และแถบภูมิภาคแปซิฟิคตะวันตก ในขณะที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทวีปแอฟริกานั้นมีอัตราการเสียชีวิตรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น

ส่วนเรื่องสายพันธุ์ไวรัสโควิด-19 นั้น ปัจจุบัน Omicron ครองสัดส่วนการระบาดทั่วโลกถึง 99.9%

หากจำแนกตามสายพันธุ์ย่อยของ Omicron ตรวจพบว่าเป็น BA.5 ถึง 74.9%, BA.2 7%, BA.4 4.8%

สำหรับสายพันธุ์ที่น่ากังวลนั้น พบว่า

BQ.1.x ได้เพิ่มขึ้นจาก 5.7% –> 9%

BA.2.75 เพิ่มจาก 2.9% –> 3.7%

และ XBB เพิ่มจาก 1.0% –> 1.5%

ดังนั้น การสวมแมสก์ ไม่อยู่ในที่แออัด และดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ยังช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด ได้นะคะ

คลิปอีจันแนะนำ
ทำการบ้านรอพ่อ หน้าเมรุ!