ระยอง เร่งเช็กร่างกาย ปชช. พื้นที่ใกล้เหตุไฟไหม้ถังสารเคมี พบ คลื่นไส้ อาเจียน ตาแดง จำนวนมาก

ระยอง ส่งทีมแพทย์ลงพื้นที่ตรวจร่างกายประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟไหม้ถังสารเคมี พบหลายรายมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ตาแดง พร้อมดูแลติดตามอาการใกล้ชิด

จากกรณีเหตุไฟไหม้ถังสารโซลีน ของ บริษัท มาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด จ.ระยอง เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 67 ตั้งแต่เวลา 10.37 น. จนเกิดเปลวไฟและกลุ่มควันจำนวนมากลอยขึ้นในอากาศ ซึ่งสถานการณ์มีแนวโน้มที่น่าจะรุนแรงจนทำให้ทาง จ.ระยองได้ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับ 2 พร้อมอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่โดยเร่งด่วน ก่อนที่ในเวลาต่อมา นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้ประกาศยกเลิกพื้นที่ประสบเหตุสาธารณภัย หลังจากการตรวจสอบจนแน่ชัดว่าเพลิงได้ดับแล้ว 

ล่าสุด วันที่ 10 พ.ค.67 บริเวณศาลาเอนกประสงค์ ข้างวัดตากวน เจ้าหน้าที่จากนิคมอุตสาหกรรมร่วมกับคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้นำบุคลากรทางการแพทย์ ให้บริการตรวจสุขภาพ ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีแทงค์สารเคมีระเบิด 

สำหรับประชาชนที่เข้ามารับการตรวจในวันนี้ ส่วนใหญ่อยู่ในชุมชน ตา-กวน อ่าวประดู่ หนองแฟบ ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ที่ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น ตอนแรกต่างไม่รู้สึกถึงอาการผิดปกติ จนกระทั่งหลังเกิดเหตุเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกาย เช่น หายใจติดขัด แสบตา ตาแดง และ มีน้ำตาไหลตลอดเวลา จึงพากันเข้ามารับการตรวจรักษา 

นอกจากนี้ยังมีคุณแม่ที่อุ้มลูกน้อยในวัย 6 เดือน มาพบกับคุณหมอด้วยอาการที่ตัวของคุณแม่เองนั้นอาเจียนอย่างหนัก ส่วนหนูน้อยวัย 6 เดือนยังไม่พบอาการผิดปกติ เช่นเดียวกับผู้ได้รับผลกระทบอีกหลายคนที่ยังเจ็บตาและดวงตามีสีแดงน้ำตาไหลไม่หยุด 

สำหรับยอดลงทะเบียน เข้ารับการตรวจ คัดกรอง ในวันนี้ จำนวน 224 ราย 

– คนไข้มีอาการ รับยา 55 คน (ชาย 13 หญิง 42 ) 

– มีอาการไม่รับยา 78คน ( ชาย 28 หญิง 50 คน) 

– ไม่มีอาการ 86 คน ( ชาย 52 หญิง 34 ) 

– Refer รพ.เฉลิมพระเกียรติฯ 5 คน ( ชาย 2 หญิง 3) 

ต่อมา รมว.อุตสาหกรรม ได้มอบเงินช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ 5 คน ที่เข้ารับการรักษาตัว ที่โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง พร้อมสอบถามถึงผู้เสียชีวิต ซึ่งทราบว่า บ้านเกิดอยู่ จ.เชียงราย ภรรยาทำงานอยู่ในห้างสรรพสินค้า มีบุตรด้วยกัน 1 คน จึงย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดุแลและเยียวยาอย่างเต็มที่กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น ซึ่งทางผู้บริหารก็ยืนยันจะช่วยเหลือครอบครัว พร้อมส่งลูกเรียนจนจบระดับปริญญาตรี  

ด้านประกันสังคมจ่ายเยียวยา ให้กับนายนพพร เรือนมา อายุ 33 ผู้เสียชีวิตเป็น เงินค่าทำศพ 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต เป็นเงิน 1,680,000 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ จำนวน 110,039.50 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,840,039.50 บาท 

สำหรับผู้บาดเจ็บ ได้แก่ 

1. นายโชคชัย ชูชุ่ม อายุ 22 ปี มีบาดแผลจากไฟไหม้ 12% ของร่างกาย เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง 

2. นายณิชฌาน ติ้บประสอน อายุ 23 ปี มีบาดแผลจากไฟไหม้ 50% ของร่างกาย เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง 

3. นายจิรลักษณ์ ถีระแก้ว อายุ 26 ปี เข้ารับการรักษาเบื้องต้น ณ โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ และกำลังส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลระยอง 

4. นายศรัณย์ ศรีสุพรรณ์ อายุ 30 ปี เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง 

โดยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 ราย ได้รับสิทธิค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นแต่ไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ค่าทดแทนกรณีหยุดงาน 70% ของค่าจ้างรายเดือน ไม่เกิน 1 ปี