“อรษาฟรุ๊ต” ล้งมังคุดเกรดส่งออกเมืองจันท์ มอบโอกาสผู้ต้องขังได้มีงานทำ

เมื่อเราพูดถึงผู้ต้องขัง แน่นอนครับว่าเขาคือคนที่ทำผิด
ต้องจองจำอยู่ในเรือนจำจนพ้นโทษ ซึ่งหลายคนพอพ้นโทษออกมาก็เจอกับปัญหาคือการไม่ได้รับความยอมรับ ไม่มีงานทำ สุดท้ายก็แพ้ตัวเองกลับไปทำผิดซ้ำอีก

แล้วที่พูดมามันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้มังคุดล่ะ
อีจัน ได้ไปดู ได้ไปเที่ยว ได้ไปคุบกับผู้อำนวยทัณฑสถานเปิดทุ่งเบญจา
ผอ.บอกว่าที่เรือนจำได้ทำ MOU กับ ล้งผลไม้ที่เป็นรายใหญ่ใน จ.จันทบุรี ชื่อว่า อรษาฟรุ๊ต ที่นี่เป็นล้งมังคุดคัดเกรดส่งออกต่างประเทศอันดับต้นๆ ของจังหวัด

ผู้บริหารที่นี่คือ มณฑล ปริวัฒน์ หรือ ก๊อต อดีตดาราและพิธีกร ที่ตัดสินใจออกจากวงการมาจับธุรกิจเจริญรอยตามครอบครัว ชื่อว่า อรษาฟรุ๊ต เป็นบริษัทส่งออกมังคุดไปจีน และสิ่งที่น่าสนใจคือ เขาเลือกที่จะให้โอกาสนักโทษได้มาทำงานในโรงงานของเขา

หนุ่มก๊อต เล่าว่า ในห้วงเวลาที่ผลไม้ออกสู่ตลาดจำนวนมาก บริษัทมักพบประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ดังนั้น ผู้ต้องขังเหล่านี้จะสามารถช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาได้และเมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษออกมาแล้วบริษัทฯ ยินดีที่จะรับเข้าเป็นพนักงานประจำทุกคน เพื่อตอบแทนสังคมและยังเป็นการให้โอกาสผู้ต้องขังได้อีกทาง

“หลายคนตั้งก็คำถามกับตัวผม ว่าเมื่อนำผู้ต้องขังเหล่านี้มาทำงานด้วย ไม่กลัวว่าคุณภาพการทำงานจะไม่ดี หรืออาจเกิดปัญหากับเพื่อนร่วมงาน สำหรับผมแล้วมองว่าผู้ต้องขังควรได้รับโอกาส ซึ่งน้องๆ เคยผิดพลาด เมื่อได้รับโอกาสดีๆ มีเงินมีรายได้ การจะกลับไปทำผิดช้ำจึงเป็นเรื่องยาก”

ในปัจจุบันพนักงานที่ทำงานอยู่ที่นี่ 60 เปอร์เซ็น เป็นผู้ต้องขังจากทัณฑสถานเปิดทุ่งเบญจา ซึ่งในปัจจุบันเรือนจำก็จะพาผู้ต้องขังที่รอพ้นโทษมาทำงานที่นี่ มีประมาณ 50 คน ทุกคนจะค่าจ้างเหมือนกับพนักงานทั่วไป รวมถึงทักษะการทำผลไม้ ซึ่งสามารถต่อยอดเป็นอาชีพได้ ภายหลังพ้นโทษได้อีกด้วย

“ผมว่าทุกคนบนโลกใบนี้ต้องการโอกาสอยู่แล้ว น้องๆเหล่านี้ก็ทำผิดพลาดไปแล้ว อดีตให้จำไว้เตือนสติว่าเคยทำอะไรผิดพลาดมา ปัจจุบันสำคัญที่สุด และก็การที่คนเราได้รับโอกาสดีๆ ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ดีต่อทุกคน การได้ให้โอกาสเขาแบบนี้ผมเชื่อว่ามันจะเปลี่ยนสังคมได้เยอะ เพราะว่าจะเกิดน้องๆเหล่านี้ออกไป แล้วยังคงไปอยู่ในสถานะเดิมๆ ในสังคมเดิมๆ แล้วไม่มีใครให้โอกาส ผมเชื่อว่าสังคมเราก็จะแย่ลงทุกวัน  อยากจะเชิญผู้ประกอบการทุกคนได้เปิดใจให้โอกาสพวกเขา อย่างน้อยให้พวกเขาได้มีอาชีพเลี้ยงครอบครัวได้ มันอาจจะเป็นทางอ้อมแต่อย่างน้อยเราได้ช่วยก็พอ”