จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Chutima Bussaba ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบาย หลังจากที่ลูกสาวได้รับทุนการศึกษา เนื่องในวันแม่แห่งชาติ จากวัดสาลิการาม ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง จำนวน 1,000 บาท แต่ครูขอเก็บซองจากมือเด็กแล้วบอกว่า ให้ครูเก็บไว้ให้ วันรุ่งขึ้นให้ไปรับที่โรงเรียน ทั้งๆที่ผู้ปกครองนักเรียนก็ไปร่วมกิจกรรมด้วย ปรากฏว่า วันรุ่งขึ้นคุณครูยื่นซองใหม่ให้เด็ก พร้อมกับทุนการศึกษาที่เหลือเพียง 300 บาทแล้วเท่านั้น
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
โพสต์ดังกล่าว มีเพื่อนผู้ปกครอง รวมทั้งคนทั่วไปร่วมแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก
ทีมข่าวอีจันจึงได้ติดต่อไปยัง เจ้าของโพสต์ ทราบชื่อ นางสาวชุติมา บุษบา อายุ 39 ปี ชาว ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นคุณแม่ของนักเรียนหญิงชั้น ป.6 โรงเรียนเอกชนดังกล่าว นางสาวชุติมาเล่าว่า ได้รับซองเงินทุนการศึกษามาจากโรงเรียนเหลือเงินจำนวนเพียง 300 บาท
พร้อมกับบอกเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า
ลูกสาวเรียนอยู่ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง จ.ตรัง ระดับชั้น ป.6 เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา ลูกสาวได้รับการคัดเลือกจากทางโรงเรียนให้เข้ารับทุนการศึกษาจากวัดสาริการาม ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นทุนการศึกษาเนื่องในวันแม่แห่งชาติ ร่วมกับเพื่อนนักเรียนโรงเรียนเดียวกันรวม 6 คน และโรงเรียนอื่นๆอีกหลายโรงเรียน
โดยวันที่ 12 สิงหาคม ตนเองได้พาบุตรสาวไปส่งที่วัดสาลิการาม จากนั้นเด็กๆก็เข้าร่วมกิจกรรม จนกระทั่งเด็กๆได้ทยอยเข้ารับทุนจากมือท่านเจ้าอาวาสด้วยตนเอง โดยซองเงินดังกล่าว เป็นซองลักษณะยาว สีขาว เมื่อลูกสาวและเพื่อนรับจากมือท่านเจ้าอาวาสแล้วเสร็จก็กลับมานั่งที่แถว และเห็นเด็กๆ เปิดซอง ลูกสาวและเพื่อนๆบอกว่าในซองมีเงิน 1,000 บาท เพราะท่านเจ้าอาวาสไม่ได้ปิดผนึกสักพักตนเองก็ได้เห็นครูจ้างเดินมาหาเด็กๆ ทั้ง 6 คนที่นั่งอยู่ในแถว พร้อมกับบอกว่าเอาซองมาเก็บไว้ที่ครูก่อน แล้วค่อยรับที่โรงเรียนพรุ่งนี้เช้า (13 ส.ค.2562 )
หลังจากนั้นเด็กๆ ก็ร่วมกิจกรรม ร่วมร้องเพลงวันแม่ ตนเองก็เอะใจ เพราะรับทราบปัญหามาจากน้าและคนอื่นๆแล้วว่า ทุกปีครูโรงเรียนนี้ จะเก็บซองจากเด็กไปแล้วให้ไปรับหน้าเสาธงปรากฏว่าจะได้เงินไม่ครบจาก 1,000 บาท ก็จะเหลือแค่ 300 บาท ทุกปี แต่ตนก็คิดว่าทางโรงเรียนน่าจะทำแบบนั้นอีก
ภาพจากอีจัน
หลังจากนั้นพอลูกสาวกลับจากโรงเรียนในวันรุ่งขึ้น ลูกสาวเอาซองเงินมาให้ ซึ่งเป็นซองเล็กๆอย่างที่เห็น ไม่ใช่ซองจากวัดแล้ว โดยลูกสาวบอกว่า แม่เงินเหลือ 300 บาท ครูใหญ่นำมามอบให้หน้าเสาธงตอนเช้า แต่แม่ไม่ต้องอะไรนะ ไม่เป็นไร เพราะลูกไม่อยากให้แม่มีปัญหา ลูกอายคนอื่น แต่ตนเองก็บอกว่า ลูกไม่ต้องอาย เพราะแม่ต้องการทำเพื่อความถูกต้อง เพื่อความเป็นธรรมกับเด็กๆ ทุกคน เพราะทางโรงเรียนทำแบบนี้ทุกปี หักทุนการศึกษาจาก 1,000 บาท เหลือจ่ายเด็กแค่ 300 บาททุกปี ซึ่งลูกสาวตนรับทุนเป็นปีแรก แต่ครูก็ไม่สมควรทำอย่างนั้น ตนเองจึงไปโพสต์เฟซบุ๊ก ซึ่งตนไม่ได้เห็นแก่เงิน หรือต้องการจะเอาเงิน 700 บาทนั่นคืน แต่ต้องทำเพื่อความถูกต้อง เพราะครูทำไม่ถูก ไม่ควรเอาเงินเด็ก และเมื่อสอบถามจากผู้ปกครองด้วยกัน ทราบว่าครูใหญ่ประกาศหน้าเสาธงว่า เงิน 1,000 บาท หักให้เด็ก 300 บาทนั้น ส่วนอีก 700 บาท นั้นหักไว้จะนำไปทำบุญที่วัดล่าสุด วานนี้ 17 ส.ค. 2562 เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ลงการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็พบว่า ทางโรงเรียนโดยผอ.โรงเรียนซึ่งเป็นเจ้าของโรงเรียนเอกชนดังกล่าว ให้ครูเก็บซองจากเด็กๆ จริง 6 ทุน ทุนละ1,000.บาท วันรุ่งขึ้น มอบเงินให้เด็กหน้าเสาธง แต่เงินเหลือทุนละ 300 บาท เงิน 700 บาทโรงเรียนหักไว้ อ้างว่าจะเอาไปทำบุญกลับคืนให้กับวัด โดยที่ผู้ปกครองของเด็กไม่รับทราบ ทราบว่าเรื่องลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายปีแล้ว จนผู้ปกครองจะเล่าต่อ ๆ กันมา
ภาพจากอีจัน
เมื่อเลขาธิการ สช.สอบถามว่าแล้วเงินที่หักเอาไปจากเด็กเพื่อจะนำไปทำบุญนั้นเก็บไว้ที่ไหน และออกใบเสร็จให้เด็กหรือไม่ ผอ.โรงเรียน กล่าวว่า เอาไปใส่ไว้ในบัญชีโรงเรียนปกติ ไม่ได้แยกบัญชี เมื่อจะไปทำบุญก็เบิกปกติ และไม่ได้ออกใบเสร็จให้ ซึ่งทางเลขาธิการสช.บอกว่า ไม่ถูกต้อง ต้องแยกบัญชีให้ชัดเจน หาก สตง.มาตรวจสอบก็จะมีความผิด เพราะแยกไม่ได้ว่าเงินได้จากแหล่งไหน และต้องออกใบเสร็จ ที่สำคัญเวลาจะทำบุญกฐิน ก็มีการส่งซองเรี่ยไรเงินทำบุญไปถึงผู้ปกครองอีกทุกปี ซึ่งผู้ปกครองก็ยืนยันว่า เวลาจะทำบุญกฐินก็มีฝากซองเรี่ยไรเงินทำบุญมากับเด็กส่งถึงผู้ปกครองอีกด้วย ทั้งนี้ เลขาธิการและคณะที่มา ได้บอกกับทาง ผอ.และเจ้าของโรงเรียนว่า การกระทำดังกล่าวไม่ถูกต้อง ไม่ถูกกฎหมาย การจะให้ทำบุญไม่ใช่บังคับคนละ 700 บาท เด็ก ผู้ปกครองไม่เต็มใจ การทำบุญต้องไม่บังคับ ให้เกิดจากความสมัครใจ ไม่เช่นนั้นจะผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไรเงิน พ.ศ.2487 และผิดคดีอาญาหากผู้ปกครองแจ้งความ เพราะเข้าข่ายการกระทำความผิดข้อหายักยอกทรัพย์ และขอให้อย่าให้เรื่องนี้ไปกระทบกับการเรียนการสอนของเด็ก กระทบความรู้สึกของเด็กเป็นอันขาด ขณะที่ผู้ปกครองไม่ติดใจเงิน 700 บาทคืน แต่เขาต้องการเรียกร้องความถูกต้องและยุติธรรม ให้กับเด็กเท่านั้น 
ภาพจากอีจัน
ด้านนางสาวชุติมา บุษบา กล่าวยืนยันกับคณะว่า ตนเองไม่ติดใจเงิน 700 บาท แต่อยากทวงความถูกต้องและยุติธรรมให้กับเด็ก เพราะโรงเรียนทำแบบนี้ทุกปี โดยที่ผู้ปกครองปีก่อนๆ เข้ามาร้องเรียนกับครูแล้ว และบางคนจะย้ายลูกออก แต่ถูกผอ.ยับยั้งไว้ โดยหลายคนไม่อยากออกมา กลัวกระทบลูก แต่ไม่มีใครเห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าวของโรงเรียน
อย่างไรก็ตาม ทางผู้อำนวยการโรงเรียน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เด็กๆ คงน้อยใจที่โรงเรียนนี้หักเงินทุนการศึกษาของตัวเอง แต่ขณะที่โรงเรียนอื่นๆที่ไปรับทุนพร้อมกัน ( ในที่นี้มีทั้งหมด 9 โรง รวมทั้งหมด 23 ทุน) ไม่ถูกหัก คงเกิดความน้อยใจและข้อเปรียบเทียบว่าทำไมโรงเรียนอื่นไม่หัก แต่ครูให้เด็กนำกลับบ้านพร้อมกับผู้ปกครอง ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน ขึ้นอยู่กับ วิธีการของเขากับของเราไม่เหมือนกัน เพราะเด็กพวกนั้นไม่ได้ช่วยวัด เพียงแต่ส่งรายชื่อมาว่าเป็นเด็กขาดแคลน และเรียนเก่ง จึงได้ไป บางโรงเรียนได้คนเดียว