รมว.ยุติธรรม ตรวจเยี่ยม กรมราชทัณฑ์ แก้ปัญหานักโทษล้นคุก

รมว.ยุติธรรม ตรวจเยี่ยมกรมราชทัณฑ์ แนะใช้กำไลอิเล็กทรอนิกส์มาแก้ปัญหานักโทษล้นคุก เน้นสร้างอาชีพหลังพ้นโทษ

วันนี้ 19 ส.ค. 2562 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้าตรวจเยี่ยมกรมราชทัณฑ์ พร้อมรับฟังผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรคในการปฏิบัติงาน โดยมี อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ /ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ สังกัดกรมราชทัณฑ์ ให้การต้อนรับ และได้เยี่ยมชมนิทรรศการผลงานของแต่ละเรือนจำทั่วประเทศ

ภาพจากอีจัน


นายสมศักดิ์เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ต้องขังมีมากขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่รับผิดชอบของกรมราชทัณฑ์ที่ต้องรับดูแล ผู้คนเหล่านี้ และจะต้องทำให้เกิดความสมดุล ถ้าดูจากตัวเลขได้ 1.2 แสนคน จะทำให้ เกิดความแออัด

ทั้งนี้จึงต้องไปดูการบูรณาการว่าจะมีหน่วยงานที่จะให้ความเห็นเรื่องกฎหมาย อะไรที่จะนำไปสู่การเป็นสากล และเป็นที่ยอมรับ และนักโทษส่วนใหญ่จะเป็นคดียาเสพติด ดังนั้น จะต้องทำให้นักโทษที่ผ่านการฟื้นฟูบำบัดได้มีโอกาส เข้าสู่การคุมประพฤติด้วยกำไลอิเล็กทรอนิกส์

ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะแก้ปัญหาได้ แต่ต้องไปดูว่าจะทำได้อย่างไร เพื่อให้สะดวกต่อการบริหารงานและเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับที่สามารถปฏิบัติได้ สร้างความสมดุลให้ดีที่สุด จึงเห็นว่าควรที่จะต้องดำเนินการและคิดร่วมกันเพื่อนำไปสู่แนวทางการแก้ปัญหานักโทษล้นคุก

ทั้งนี้ยังต้องให้มีการสร้างอาชีพ โดยให้ข้อสังเกตถึงเรือนจำรูปแบบใหม่ที่ควรมีภาคอุตสาหกรรมเข้าไป เพื่อให้ผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษ เข้ามาทำงานเพื่อสร้างความชำนาญก่อนที่จะออกไปสู่สังคม และการให้สิทธิพิเศษทางภาษีกับผู้ประกอบการที่รับกลุ่มคนที่พ้นจากเรือนจำเข้าทำงาน

ขณะที่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงนโยบายว่า หลักการบริหารงานของกรมราชทัณฑ์ ใช้หลัก 3 ส. สะอาด สุจริต และเสมอภาค และกรมกราชทัณฑ์ ได้รับรางวัลองค์กรโปร่งใส เมื่อเทียบกับหน่วยงานองค์กรยุติธรรมอื่นๆ กรมราชทัณฑ์ได้คะแนนสูงที่สุด ซึ่งเป็นรางวัลที่ภูมิใจในกระบวนการยุติธรรม และมีการระมัดระวังเป็นพิเศษในการจัดซื้อจัดจ้าง ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และได้รับรางวัลการประกาศเกียรติคุณ ในการจัดซื้อจัดจ้างดีเด่น รวมถึงรางวัลบริหารทรัพยากรบุคคลดีเด่น ด้านความโปร่งใสด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลด้วย

ส่วนปัญหาของกรมราชทัณฑ์ ยังมี 3 ส่วน คือ ปัญหาคนล้นคุก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เจ้าหน้าที่และสถานที่คุมขังไม่เพียงพอ และเนื่องจากมีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ทำให้ยอดผู้ต้องหาลดลงเหลือกว่า 3 แสนคน และส่วนใหญ่ 79% เป็นผู้ต้องขังเกี่ยวกับคดียาเสพติด 21% เป็นคดีทั่วไป และยังมีปัญหาสุขภาวะในเรือนจำ และปัญหาการกระทำผิดซ้ำ

ภาพจากอีจัน


ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงกรณีที่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ออกมาชี้แจงถึงความไม่โปร่งใสและการล็อคสเป็ค อุปกรณ์เสริมในเรือนจำ 4 แห่ง หลังทีมงานของรัฐมนตรีเดินทางไปตรวจสอบที่ทัณฑสถานห้วยโป่ง จ.ระยอง เพราะมีผู้ร้องเรียนว่าอาจจะมีการทุจริต ซึ่งอาจจะถูกมองว่าล้วงลูกการทำงานหรือไม่

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ย้ำว่าขออย่าใช้คำว่า ล้วงลูก เพราะจะดูเหมือนไม่เข้าใจกัน ทั้งนี้การทำงานการเมือง คนเข้ามาบริหารก็อยากจะสร้างผลงาน ในบางครั้งการดำเนินการอาจจะไม่เหมาะสม และเกินเลย ซึ่งสิ่งที่ได้สั่งทีมงานให้ดำเนินการอาจจะไม่ชัดเจน หลังจากมีคนเข้ามาร้องเรียน ก็ได้สั่งให้ไปดูรายละเอียดให้ และเมื่อเป็นข่าวอาจทำให้ความเข้าใจผิดวัตถุประสงค์ แต่การเข้าไปดูก็ทำให้เกิดความชัดเจนว่า เรื่องของสเป็ค และเงื่อนไขการดำเนินการต่างๆ ต้องนำขึ้นเว็บไซด์ ก่อนที่จะมีการประกวดราคา

ภาพจากอีจัน


ดังนั้น สิ่งที่กรมราชทัณฑ์ดำเนินการอยู่ในเงื่อนไขของกฎหมาย ถูกต้องชัดเจน และไม่มีปัญหา และไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย ในเมื่อถูกต้อง เรื่องนี้ก็จบไป และหลังจากนี้จะต้องกำชับทีมงาน ไม่ให้สัมภาษณ์อะไรที่เป็นสิ่งล่อแหลม ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ส่วนตัวยังไม่ได้พูดคุยกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์โดยตรง แต่ก็เข้าใจ เพราะหน่วยงานราชทัณฑ์ได้รางวัลมากมาย
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายสมศักดิ์ ได้ส่งทีมงานเข้าไปสอบถามงบประมาณลับ และงบประชาสัมพันธ์ในหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงยุติธรรมนั้น นายสมศักดิ์ ยืนยันว่าไม่ได้ส่งทีมงานไปถาม เพราะส่วนตัวสามารถรับรู้ได้อยู่แล้ว และงบประมาณลับ เมื่อมีข้อกฎหมายบางเรื่องก็ไม่สามารถเปิดเผยได้