ร้านชามีเฮ! ทนายเกิดผล ชี้ช่อง ลอกเลียนปังชาได้ไม่ผิด

ทนายเกิดผล แก้วเกิด ตอบชัด! ปมดราม่า ปังชาสงวนสิทธิ์ ชี้ ใครทำก็ได้ เพราะเป็นชื่อและเมนูทั่วไป

เกิดดราม่าสนั่นโลกโซเชียลมีเดีย จนทางร้านต้องรีบออกมาชี้แจงเลยค่ะ สำหรับกรณี “ร้านปังชา” จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า พร้อมสงวนสิทธิ์ห้ามลอกเลียนแบบ บิงซู หรือน้ำแข็งไส ใส่ชาไทย ซึ่ง ‘อีจัน’ ไม่นิ่งนอนใจ รีบสอบถามความรู้จากทนายความชื่อดัง อย่าง ทนายเกิดผล แก้วเกิด เกี่ยวกับกรณีดราม่าดังกล่าวทันที 

หลังวันที่ 27 ส.ค. 66 ที่ผ่านมา ทางร้านปังชาได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Lukkaithong – ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant ระบุว่า  

แบรนด์ปังชา ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า (Trademark) “ปังชา” ภาษาไทย และ “Pang Cha” ภาษาอังกฤษ ตามพระราชบัญญัตคุ้มครองเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 แล้ว 

พร้อมสงวนสิทธิ์ห้ามลอกเลียนแบบ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข และสงวนสิทธิ์ห้ามนำชื่อแบรนด์ปังชา Pang Cha ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ไปใช้เป็นชื่อร้านหรือใช้เป็นชื่อสินค้าเพื่อจำหน่าย 

เมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่ จนล่าสุดวานนี้ (29 ส.ค. 66) ทางร้านได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวว่าเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน โดยระบุว่า  

ร้านอาหารลูกไก่ทอง และร้านปังชา ขอประกาศขอชี้แจงถึงกรณี ข้อความในโพสต์ ที่ได้มีการโพสต์ผ่านทางโซเชียลมีเดียของทางร้าน ทางร้านขออภัยที่มีการสื่อสาร และทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทางร้านขอน้อมรับทุกคำติชม คำแนะนำ และจะปรับปรุง พัฒนา ทั้งในการสื่อสาร การบริการ สินค้าต่อไป 

ขอขอบคุณกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้ให้ข้อมูลและหาแนวทาง ร่วมกันในการชี้แจ้ง เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจทางแบรนด์เป็นอย่างดีที่สุด ที่สำคัญที่สุด กราบขอบพระคุณด้วยความเคารพจากใจในทุกๆ ท่าน ที่ร่วมกันโพสต์แสดงความคิดเห็นให้แนวทาง อธิบายในข้อมูลที่มี เพื่อเป็นความรู้กับปังชาเป็นอย่างดีที่สุด ขอบพระคุณจริงๆค่ะ 

ที่ผ่านมาจากกระแสที่เกิดขึ้น ทางร้านลูกไก่ทอง และปังชา มิได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด แต่ได้มีการสอบถามและหาปรึกษาแนวทางร่วมกัน ชี้แจงกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงออกมาชี้แจง ณ ที่นี้พร้อมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา 

อย่างไรก็ตาม แม้ทางร้านจะออกมาชี้แจงแล้วแต่กระแสชาวเน็ตที่ออกมาพูดถึงประเด็นนี้ก็ยังไม่ลดน้อยลงเลย จนล่าสุดวันนี้ (30 ส.ค. 66) เวลา 12.20 น. #ปังชา ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์มาแรงในไทย 

ทั้งนี้ ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้ให้ข้อมูลกับอีจันว่า แม้ทางร้านจะมีการจดสิทธิบัตร แต่คำว่า “ปัง” และ “ชา” เป็นชื่อสามัญที่ใครๆ ก็ใช้กัน รวมถึงเมนูที่นำชาไทยมาราดน้ำแข็งก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไป เพราะฉะนั้น ทางร้านค้าอื่นๆ ที่เปิดขายอยู่มีสิทธิ์ที่จะทำต่อได้ และหากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น แนะนำให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม ใครที่คิดจะไปจดสิทธิบัตรควรคำนึงด้วยว่าชื่อหรือเมนูดังกล่าว เป็นสิ่งที่มีอยู่ทั่วไปหรือไม่ 

ซึ่งต้องรอดูว่าทางร้านจะออกมาเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป แล้วลูกเพจล่ะคะ มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง 

คลิปอีจันแนะนำ
โดนฟ้อง 102 ล้าน! เพราะเมนู “ปังชา”