เฒ่าพิการนั่งวีลแชร์ ควงลูกซองยิงเพื่อนบ้านดับ

เฒ่าพิการนั่งวีลแชร์ ยิงดับแค้นเพื่อนบ้านรุ่นลูก เผยทะเลาะมาตั้งแต่รุ่นพ่อ อึดอัดใจสะสมนานหลายปี

เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (21 ส.ค. 62) ร.ต.อ.ณัฐชัย เขียวจันทร์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.วังเจ้า อ.วังเจ้า จ.ตาก รับแจ้ง มีเหตุ คนถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่งใน ตำบลเชียงทอง อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก จึงรายงานผู้บังคับบัญชาและรุดตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนารักษ์ ปารมีสา รอง ผบก.ภ.จ.ตาก พ.ต.อ.การุณ วงศ์จันทรมณี ผกก.สภ.วังเจ้า พร้อมด้วย ชุดสืบสวนสอบสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตาก และ หน่วยกู้ภัยวัฒนะวังเจ้า กู้ชีพศูนย์ อบต.เชียงทอง ที่เกิดเหตุพบศพ นายสมคิด ตั้งปัญญา อายุ 44 ปี เสียชีวิตอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน ตามร่างกายมีรอยบาดแผลจากกระสุนปืนเข้าที่ใบหน้าและช่วงอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานและแพทย์เวรจากโรงพยาบาลวังเจ้า เข้าทำการชันสูตรพลิกศพ ณ จุดเกิดเหตุ 

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานพร้อมแพทย์เวร ร่วมกันพิสูจน์หลักฐานชันสูตรพลิกศพ ณ จุดเกิดเหตุเบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาวขนาด 12 ยิงเข้าที่ใบหน้าและลำตัวรวม 15 จุด ห่างไปประมาณ 13 เมตร พบปลอกกระสุนปืนลูกซองขนาด 12 จำนวน 3 ปลอก

ภาพจากอีจัน

ส่วนผู้ก่อเหตุ เป็นเฒ่าพิการ นั่งวีลแชร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตาม จับกุม ได้คือ นายตังกรวย วะราโภค อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน อยู่บ้านติดกัน นั่งอยู่บนวีลแชร์ที่หน้าบ้าน รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาว ของกลาง พร้อมกระสุนคารังเพลิงอีก 1 นัด

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายตังกรวย เฒ่าพิการนั่งวีลแชร์ ให้การว่า ตนกับเพื่อนบ้าน มีปากเสียงกันมาหลายปี ตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อของคนตายจนรุ่นลูก ที่ผ่านมาคนตายมักพูดจา กระแนะกระแหนตนเองตลอด เวลาปลูกพืชผักข้างบ้าน ก็ถูกคนตายแอบเอายาฆ่าหญ้ามาพ่นตอนกลางคืน ทำให้ตนเกิดความแค้นและอัดอั้นในใจมาโดยตลอด จึงตัดสินใจแก้ไขปัญหาโดยการยิงให้ตาย ซึ่งก่อนเกิดเหตุเห็นผู้ตายทานข้าวเสร็จ เดินออกมานั่งที่นั่งระเบียงหน้าบ้าน ตนเองจึงนั่งวีลแชร์ แบกปืนลูกซองยาวมาตั้งป้อมยิงบริเวณร้านแตง ที่บังด้วยใบมะพร้าวแห้ง ข้างบ้าน ได้จังหวะเหมาะจึงยิงผู้ตายทีละนัด รวม 3 นัด ขณะจะยิงซ้ำนัดที่ 4 แม่คนตายได้ยินเสียงปืน วิ่งออกมาจากตัวบ้าน พบว่ากลายเป็นศพไปแล้ว ตนเองได้ปลิดชีวิตคู่อริระบายความแค้นที่ฝังอยู่ในใจนานหลายปีได้สำเร็จ ก็หมุนวีลแชร์กลับบ้านไป รอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตัวดังกล่าว

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

แม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การอันเป็นประโยชน์ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาข้อเท็จจริง จึงควบคุมตัวนายตังกรวย ดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และยิงปืนในเมือง หมู่บ้านโดยไม่ใช่เหตุอันควร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป