เปิดตัว! รัฐฯ ทำรถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ พร้อมดูเเลความสะดวกให้กับคนสูงวัย 

รัฐบาลดูแล! พร้อมเปิดตัวรถตรวจสุขภาพสูงวัยเคลื่อนที่ ให้บริการเชิงรุก 6 ด้าน เช่น ตา-ปาก-สมอง เพิ่มการเข้าถึงสุขภาพได้ปีละกว่า 2 หมื่นคน

รัฐฯพร้อมดูแล! สังคมสูงวัยแล้วค่ะ 

วันนี้(9 มิ.ย.68) เว็บไซต์ รัฐบาลไทย ได้ออกมาโพสต์แจ้งข่าวดีเกี่ยวกับ การเปิดตัวรถตรวจสุขภาพสูงวัยเคลื่อนที่ ซึ่งให้บริการเชิงรุก 6 ด้าน เพิ่มการเข้าถึงสุขภาพได้ปีละกว่า 2 หมื่นคน โดยนายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า  รัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุข เปิดตัว “รถตรวจสุขภาพสูงวัยเคลื่อนที่” เพื่อผู้สูงอายุ ซึ่งจากข้อมูลปัจจุบันพบว่ามีผู้สูงอายุกว่า 38% มีโรคประจำตัวมากกว่า 2 โรค ได้เข้าใช้บริการผู้ป่วยนอกกว่า 68 ล้านครั้ง และบางส่วนยังเข้าไม่ถึงการบริการ โดย “รถตรวจสุขภาพสูงวัยเคลื่อนที่” จะให้บริการสุขภาพเชิงรุก 6 ด้าน ทั้งตรวจรักษาโรค NCDs ตรวจสุขภาพเบื้องต้น คัดกรองช่องปาก Tele-Consult ให้คำปรึกษาโภชนาการ และฉีดวัคซีน ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพได้ถึง 12% หรือ 21,600 คนต่อปี 

 นายคารม กล่าวต่อว่า ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่าปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่า 14.37 ล้านคน คิดเป็น 21.87% ของประชากรทั้งหมด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นความท้าทายด้านสุขภาพจากปัญหาการป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) สำหรับโรคที่พบมากที่สุด คือ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคหัวใจ โดยผู้สูงอายุมากกว่า 38% มีโรคประจำตัวมากกว่า 2 โรค รวมถึงมีปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย เช่น การมองเห็น สุขภาพช่องปาก ภาวะสมองเสื่อม และการพลัดตกหกล้ม หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะพึ่งพิงและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว ทำให้ต้องเข้ารับบริการสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องส่งผลให้เกิดความแออัดในโรงพยาบาลรัฐมากขึ้น 

ทั้งนี้รัฐบาล โดยสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ ได้พัฒนา “รถตรวจสุขภาพสูงวัยเคลื่อนที่” เพื่อนำบริการสาธารณสุขออกไปถึงชุมชนและกลุ่มเป้าหมาย รถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ 1 คัน จะช่วยเพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการของผู้สูงอายุได้ถึง 12% หรือ 21,600 คน โดยรถตรวจสุขภาพสูงวัยเคลื่อนที่มี 6 บริการหลัก ได้แก่  

1.การตรวจรักษา ติดตาม ให้คำปรึกษาด้านโรค NCDs ภาวะสมองเสื่อมและภาวะหกล้ม  

2.ตรวจคัดกรองสุขภาพช่องปาก  

3.ให้คำปรึกษาทางไกล (Tele-Consult) โดยทีมสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ  

4.ตรวจสุขภาพเบื้องต้น (วัดความดัน ตรวจเบาหวาน ชั่งน้ำหนัก ฯลฯ)  

5.ให้คำปรึกษาด้านโภชนาการและกิจกรรมพัฒนาร่างกาย   

6.ฉีดวัคซีนและเวชภัณฑ์เบื้องต้น  

ซึ่งการดำเนินการนี้ ถือเป็นนวัตกรรมสำคัญที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการ ส่งเสริมการป้องกันโรคและสนับสนุนการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ ลดภาระของโรงพยาบาล และลดภาระในการเดินทาง โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกล  

โครงการนี้ถือว่าตอบโจทย์ดีเหมือนกันค่ะ แล้วลูกเพจล่ะคะคิดอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง? 

ที่มา: เว็บไซต์ รัฐบาล https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/97248 https://www.hfocus.org/content/2025/05/34186