อีจันหนีตาม ททท.มาพาคนญี่ปุ่นไปเที่ยวไทยค่ะ ร่วมเปิดงาน “Tourism EXPO Japan 2023” ที่ Intex Osaka นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ยกขบวนผู้ประกอบการมาขายทัวร์ แจกแพคเกจให้กับนักท่องเที่ยว ที่จะเข้ามาร่วมงานในครั้งนี้
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้าส่งเสริมตลาดญี่ปุ่นนำผู้ประกอบการไทย 11 ราย เข้าร่วมงาน “Tourism EXPO Japan 2023” ระหว่างวันที่ 26 – 29 ตุลาคม 2566 ณ Intex Osaka นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเร่งเครื่องกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวศักยภาพใหม่ พร้อมส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด “Sustainable Tourism Goals (STGs)” คาดจำนวนนัดหมายเจรจาธุรกิจรวมทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 300 นัดหมาย
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า งาน Tourism EXPO Japan 2023 จัดขึ้นโดยสมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวญี่ปุ่น (Japan Association of Travel Agents : JATA) ร่วมกับสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น Japan Travel and Tourism Association: JTTA) และองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan National Tourism Organization: JNTO) โดยเป็นงานส่งเสริมการขายสินค้าทางการท่องเที่ยวที่รวมทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างประเทศและการท่องเที่ยวภายในประเทศญี่ปุ่น (Tabi Fair) ไว้ด้วยกัน ส่งผลให้งานนี้เป็นงานส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะได้ประชาสัมพันธ์นำเสนอ Soft Power ไทยและภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศต่อชาวญี่ปุ่น ตลอดจนเป็นเวทีให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยในการส่งเสริมตลาดกับผู้ประกอบการนำเที่ยวในพื้นที่
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า งาน Tourism EXPO Japan 2023 ถือเป็นเวทีสำคัญของการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการญี่ปุ่นและผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย โดยในปีนี้ ททท. นำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วม 11 ราย ประกอบด้วย ผู้ประกอบการโรงแรม 8 ราย และ 3 สายการบิน ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนนัดหมายเจรจาธุรกิจรวมไม่ต่ำกว่า 300 นัดหมาย และยังถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้นำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้กับชาวญี่ปุ่นที่เข้าร่วมงานเพื่อกระตุ้นตลาดญี่ปุ่นให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดย ททท. มุ่งที่จะรักษาฐานนักท่องเที่ยวกลุ่ม Bleisure กลุ่ม Golfer กลุ่ม Active Senior กลุ่ม Office Lady กลุ่ม Gen X และมุ่งเจาะกลุ่มตลาดศักยภาพใหม่ในตลาดญี่ปุ่น อาทิ กลุ่ม Boy Lovers (BL) จากกระแส BL ซีรี่ย์ของไทยที่มาแรงในตลาดญี่ปุ่น กลุ่ม Oya-rich หรือ กลุ่มครอบครัวที่มีรายได้สูง กลุ่มความสนใจพิเศษ เช่น มาราธอน ดำน้ำ จักรยาน และเกมออนไลน์ รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยเป็นครั้งแรก (First Visitor) เพื่อเร่งเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว นำไปสู่การพลิกฟื้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล
งาน “Tourism EXPO Japan 2023” มีพิธีเปิดคูหาประเทศไทยในวันที่ 26 ตุลาคม 2566 โดยได้รับเกียรติจากนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายอัครพงศ์ เฉลิมนนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา และนายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. ผู้บริหารและแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงาน โดยภายในคูหาประเทศไทยที่นำเสนอภายใต้แนวคิด “Sustainable Tourism Goals (STGs)” นอกจากจะมีการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยและญี่ปุ่นเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของไทย และการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวของประเทศไทยแล้ว ยังมีการเปิดตัวโครงการ Imakara Thai e (Going to Thailand now with my first passport) ร่วมโดย The Sato Triplet ศิลปินแฝด 3 คน ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มคนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ที่มีผู้ติดตามใน Social Media มากกว่า 3 ล้านผู้ติดตาม อีกด้วย
นอกจากนี้ ภายในงานจะมีการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมจากวงหมาเก้าหาง กลุ่มศิลปินรุ่นใหม่จากวิทยาลัยนาฏศิลป์กาฬสินธุ์ที่นำดนตรีพื้นบ้านอีสานและดนตรีร่วมสมัยมาบรรเลงร่วมกัน สาธิตกิจกรรมการประดิษฐ์รองเท้าและตกแต่งทรายในขวดแก้วจากขยะรีไซเคิลในทะเล โดย ทะเลจร จังหวัดปัตตานี กิจกรรม Photo Booth พร้อมรถตุ๊กตุ๊กจำลองขนาดเล็กที่เปิดให้ผู้เยี่ยมชมงานสามารถร่วมกิจกรรมถ่ายภาพได้ด้วยตนเอง พร้อมพื้นหลังที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศไทย สร้างการรับรู้ให้กับผู้เยี่ยมชมรู้สึกเสมือนได้มาเยือนประเทศไทย และการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ไทยจากฝีมือชาวบ้านจากร้าน Good Goods ซึ่งสินค้าแต่ละชิ้นล้วนมีเรื่องราวและคุณค่า ยกระดับสินค้าท้องถิ่นให้เข้ากับยุคสมัยและช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชน
สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ให้ความสำคัญกับการเดินทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับสนใจการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เรียนรู้วิถีชีวิตคนท้องถิ่น รวมถึงชื่นชอบอาหารไทย กิจกรรมนวดและสปา โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 กันยายน 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางเข้าประเทศไทย 574,740 คน ซึ่ง ททท.จะเร่งผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีสู่เป้าหมายนักท่องเที่ยว 845,000 คน ในปี 2566 และเพิ่มแรงส่งตลาดสู่เป้าหมายนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น 1 ล้านคนในปี 2567
