ลุงวัย 52 ร้องไห้โฮ! ถูกโจรขโมยกระเป๋าใส่เงินไว้รักษาพี่ชาย

ลุงวัย 52 ถูกโจรขโมยเงินกว่า 8 หมื่นบาท หน้า รพ.ศูนย์อุดรฯ ร้องไห้โฮเป็นเงินรักษาพี่ชายป่วยเนื้องอกในสมอง

โทษของคนลักขโมย กฎแห่งกรรมจะตามมาในไม่ช้า

ของที่ขโมยเขาไป ใช้ยังไงก็มีแต่ทุกข์!

เมื่อวานนี้(3 เม.ย. 66) เกิดเหตุสุดเวทนา ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม ตรงข้ามโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี จ.อุดรธานี คุณลุงอดิสรณ์ อายุ 52 ปี ชาว จ.หนองบัวลำภู นั่งร้องไห้เสียใจระหว่างรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยลุงเล่าว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป  มานอนเฝ้าพี่ชายซึ่งป่วยเนื้องอกในสมอง ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. จนถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า 19 วันแล้ว พี่ชายจะได้ผ่าตัดวันที่ 6 เม.ย.นี้  ตนได้นำเงินเก็บกว่า 8 หมื่นบาทติดตัวมาด้วย เอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายรักษาพี่ชาย เพราะตนต้องซื้อแพมเพิร์สผู้ใหญ่เปลี่ยนให้พี่ทุกวัน

ลุงเล่าต่อว่า หลังจากขึ้นไปเยี่ยมพี่ชายบนตึกแล้ว ช่วงบ่ายตนลงมานอนพักผ่อนในสวนสาธารณะหนองประจักษ์ โดยถอดกระเป๋าคาดเอววางไว้ข้างๆ จากนั้นได้โทรศัพท์คุยกับภรรยา ก่อนจะเผลอหลับไป พอตื่นขึ้นมาพบว่ากระเป๋าคาดเอวสีเขียวได้หายไป ข้างในมีเงินสด  81,500 บาท บัตรประชาชนของตนและพี่ชาย โทรศัพท์มือถือซัมซุงที่วางอยู่ข้างกระเป๋าคนร้ายก็เอาไปด้วย 

เมื่อรู้ตัวแล้วว่าของหาย ตนจึงขอยืมโทรศัพท์คนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กันแถวนั้น เพื่อโทรหาภรรยา ว่าโดนขโมยกระเป๋าและทรัพย์สินไปจนหมด ซึ่งภรรยาก็ร้องไห้ ตนจึงได้พูดปลอบใจภรรยาไปว่า “อย่าร้องไห้ เดี๋ยวความดันจะขึ้น” ซึ่งเงินทั้งหมดกว่า 8 หมื่นบาทนั้น เป็นเงินที่ตนทำงานรับจ้างได้ก็เก็บหอมรอมริบมาไว้ เพื่อมารักษาพี่ชายป่วยเนื้องอกในสมอง ซึ่งพี่ชายโดนภรรยาไล่ออกจากบ้าน  ตนจึงอยากขอความเห็นใจจากคนร้ายให้นำเงินและทรัพย์สินมาคืน ตอนนี้ไม่มีเงินรักษาพี่ชายแล้ว  ไม่เหลือเงินเลยแม้แต่บาทเดียว เงินที่จะกินข้าวก็ยังไม่มี

ด้าน นางนิตย์ อายุ 51 ปี พยานผู้เห็นคนร้าย เล่าว่า ตนมาเฝ้าสามีผ่าตัดแขน จากนั้นตนและญาติได้มานั่งปูเสื่อกินข้าวและลูกชิ้น ห่างจากผู้เสียหายซึ่งปูเสื่อนอนประมาณ 50 เมตร ขณะที่ผู้เสียหายนอนหลับ ตนเห็นคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 20-25 ปี รูปร่างผอม ใส่เสื้อคลุมแขนยาว กางเกงขายาว สวมหมวกแก๊ป สะพายเป้ เดินมาจากฝั่งทางประตูสวนสาธารณะหนองประจักษ์ มาหยุดยืนมองผู้เสียหายนอนหลับ คนร้ายได้หันมาจ้องหน้าตน ตนจึงหลบสายตาแล้วนั่งกินลูกชิ้นต่อ และก็ไม่ได้สนใจอะไร ไม่นานผู้เสียหายก็ตื่นขึ้นมาแล้วร้องโวยวายว่าเงินหาย จึงสอบถามกับวินมอเตอร์ไซค์ตรงนั้น และขอยืมโทรศัพท์แจ้งตำรวจ

ขณะที่นางอารีรัตน์ วินมอเตอร์ไซค์หน้าโรงพยาบาล เล่าว่า ผู้เสียหายวิ่งมาขอความช่วยเหลือ หน้าซีด ร้องไห้ว่าโดนขโมยเงินและโทรศัพท์ อยากให้แจ้ง รปภ. และตำรวจ ตนจึงแจ้ง รปภ. และโทรแจ้งตำรวจ จากนั้นก็ลองโทรเข้ามือถือผู้เสียหาย โทรติด 2-3 ครั้ง จากนั้นคนร้ายก็ปิดเครื่องมือถือของผู้เสียหายไป

ด้าน พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ได้แนะนำผู้เสียหายไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ส่วนตำรวจสืบสวนจะตรวจกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี เพื่อหาเบาะแส ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป