เย้ ! พบ ‘กระทิง’ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน ครั้งแรกในรอบ 37 ปี

ข่าวดี ! เจอเจ้ากระทิงโผล่ป่าสาละวิน ในรอบ 37 ปี บ่งบอกว่าป่านั้น มีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์

ความหวังยังไม่สูญสิ้น เจอ “กระทิง” ในผืนป่าสาละวิน

เพจเฟซบุ๊ก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้โพสต์เรื่องราวที่น่ายินดีของประเทศไทยค่ะ มีรายงานจาก นายอาคม บุญโนนเเต้  หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน เปิดเผยว่า ตามที่ ขสป. ได้มีการติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า (Camera Trap) เพื่อสำรวจการกระจายของสัตว์ป่าในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ร่วมกับการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (SMART PATROL) เนื่องจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวินเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญในเชิงระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพของป่ารอยต่อ ระหว่างประเทศไทยและสหภาพเมียนมา โดยเลือกพื้นที่ที่พบร่องรอยสัตว์ป่าชุกชุม หรือมีรายงานว่าเคยพบเห็นสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ ในบริเวณนั้น  โดยเมื่อช่วงเวลาเช้าตรู่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาทางเขตฯ ได้เปิดกล้องดักภาพถ่ายสัตว์ป่า พบกระทิง (Bos gaurus) ซึ่งเป็นสัตว์ที่นับว่าพบตัวยากในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย !!!

“สำหรับกระทิงเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวินได้พบเห็นครั้งล่าสุดเมื่อปี 2529 และในปี พ.ศ. 2531 มีผู้ลักลอบล่าวัวป่าชนิดนี้จากบริเวณแม่ลาหลวงใกล้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ยวม ฝั่งขวาซึ่งเป็นผืนป่าต่อเนื่องกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน ไพฑูรย์ ตนพะยอม กล่าวไว้ ในปี 2533

ข้อมูลเกี่ยวกับการพบเห็นตัวกระทิงในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวินที่มีปรากฎในเอกสาร รายงานฉบับร่างแผนแม่บทเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดย คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. 2533

นับเป็นเวลากว่า 37 ปี แล้วที่ไม่มีรายงานการพบเห็นตัวกระทิงในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวินเลย หากแต่มีเพียงข้อมูลคำบอกเล่า รอยตีน หรือ กองมูล ที่ไม่อาจยืนยันได้ชัดเจนว่าเป็นกระทิงหรือไม่ แตกต่างกับวัวแดงที่มีพบเห็นตัวโดยตรงบ่อยครั้ง และมีแหล่งอาศัยชัดเจนคือบริเวณป่าเต็งรังที่ราบตอนบนของเขตฯ เท่านั้น

​กระทิง ชื่อสามัญคือ Gaur  มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bos gaurus พบในวันที่ 8 ตุลาคม 2566 เวลา 03.01 น. ตัวผู้ ตัวเต็มวัย จำนวน 1 ตัว กระทิงเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่จัดอยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ ( Endangered : EN) ตามการจัดสถานภาพสัตว์ป่าของ IUCN (สผ. ) และเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562

จากการรายงานของเจ้าหน้าที่บริเวณที่ถ่ายภาพได้ และชาวบ้านในพื้นที่ พบว่ามีร่องรอยกระทิงมาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ประจำทุกปี โดยมาในลักษณะฝูงเล็ก ๆ ( 1 – 3 ตัว) หรือมาในลักษณะกระทิงโทน (ตัวผู้ตัวเดียว) และมีพฤติกรรมหากินข้ามไปมาบริเวณป่ารอยต่อระหว่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ยวมฝั่งขวา และประเทศเมียนมา หากแต่เป็นเพียงข้อมูลคำบอกเล่า รอยตีน และกองมูล ทำให้ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นกระทิงหรือเป็นร่องรอยปศุสัตว์ของชาวบ้าน ภาพจากกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า (Camera Trap) ในครั้งนี้จึงเป็นหลักฐานที่สำคัญในการยืนยันการมีอยู่และการกระจายของกระทิงในพื้นที่

ดังนั้น “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน จึงถือเป็นป่าอนุรักษ์เพียงแห่งเดียวในภาคเหนือของประเทศไทยที่มีรายงานพบเห็นตัวกระทิงในปัจจุบัน”

ข้อมูลจาก มูลนิธิสืบนาคะเสถียร บอกไว้ว่า …

กระทิง มีความสำคัญต่อระบบนิเวศมาก มีบทบาทเป็นสัตว์เบิกนำในการค้นหา แหล่งพืชอาหารหรือแหล่งน้ำ ซึ่งจะช่วยให้สัตว์อื่น ๆ สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ นอกจากนี้กระทิงยังช่วยกระจายเมล็ดพันธุ์ไม้ป่า เช่น ลูกส้าน กระท้อนป่า มะกอกป่า ฯลฯ ดังนั้นหากป่าหรือพื้นที่ใดมีกระทิง เท่ากับว่าป่าบริเวณนั้นมีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้และพรรณพืชที่หลากหลาย

คลิปอีจันแนะนำ
น่าเอ็นดู เจ้าช้างน้อย กันยา ซ้อมขึ้นรถไปหาแม่นม