ปภ. เตรียมรับมือ “พายุวิภา” 21-24 ก.ค.

ปภ. พร้อมรับมือ “พายุวิภา” 21-24 ก.ค.นี้ กำชับตามข้อสั่งการ มท.1 – ส่งทีมลุย “เชียงใหม่” เกาะติดสถานการณ์ 24 ชั่วโมง

วันนี้ (21 ก.ค. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเตรียมพร้อมรับมืออิทธิพลของพายุโซนร้อน “วิภา” ที่อาจส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ระหว่างวันที่ 21–24 กรกฎาคมนี้ พร้อมกำชับทุกจังหวัด ดำเนินการตามข้อสั่งการของ มท.1 นายภูมิธรรม เวชยชัย อย่างเคร่งครัด พร้อมส่งทีม ขณะเดียวกัน ปภ. ส่วนหน้าลุยพื้นที่ จ. เชียงใหม่ เพื่อเกาะติดสถานการณ์และประสานการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนในภาคเหนืออย่างใกล้ชิด 

ด้าน ภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามการเคลื่อนตัวของพายุโซนร้อน “วิภา” อย่างใกล้ชิด พบว่าพายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณชายฝั่งเมืองเจียงเหมิน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน กำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตก คาดว่าจะเคลื่อนตัวตามแนวชายฝั่งประเทศจีน เข้าสู่อ่าวตังเกี๋ยและจะเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 22 ก.ค. 68

โดยคาดว่าหลังจากวันที่ 22 ก.ค. 68 พายุโซนร้อน “วิภา” จะเริ่มอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ ซึ่งอิทธิพลของพายุลูกนี้จะส่งผลให้ประเทศไทยเกิดฝนตกหนักสลับกับเบาในช่วงวันที่ 21 – 24 ก.ค. 68 ขณะช่วงวันที่ 21 ก.ค. 68 กลุ่มฝนจะเริ่มเคลื่อนเข้าสู่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเกิดฝนตกต่อเนื่อง และช่วงวันที่ 22 – 24 ก.ค. 68 ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มได้  

ทั้งนี้ นายภาสกร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้เน้นย้ำให้จังหวัดติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ให้ข้อมูลและแจ้งเตือนภัยทั้งในส่วนของสถานการณ์ภัยที่เกิดขึ้น พื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ รวมถึงแนวทางการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีข้อมูลที่เพียงพอและปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องในช่วงเวลาที่เกิดสถานการณ์ภัยขึ้น อีกทั้งให้จังหวัดเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติการความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย โดยหากเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอในการปฏิบัติงานหรือต้องการเครื่องจักรกลสาธารณภัยเพิ่มเติม ให้จังหวัดประสานมาที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทันที

ขอบคุณข้อมูล : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย