ระวังให้ดี! หมอหมู เตือน “เสียงดังในหู”เป็นสัญญาณบอกโรคร้าย  

แพทย์ เตือน! อย่ามองข้าม “เสียงดังในหู” โดยเฉพาะ ดังตามจังหวะชีพจร อาจเป็นสัญญาณเตือน โรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง แนะ รีบปรึกษาหมอทันทีหากมีอาการ

ใครเคยเป็นบ้างคะ? “เสียงดังในหู” อาจอันตรายกว่าที่คิด 

วันนี้ (21 ก.ค. 68) เฟซบุ๊ก วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี ได้ออกมาโพสต์เตือนเกี่ยวกับ “อาการเสียงดังในหู” ที่ไม่ควรมองข้าม อาจร้องเตือนถึงโรคไม่รู้ตัว ล่าสุดหมอหมู อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว)  ออกมาระบุว่า… 

ฟังเสียงในหูให้ดี! มันอาจกำลัง ร้องเตือนคุณถึงโรคที่คุณไม่รู้ตัว “เสียงดังในหู” แบบเรื้อรัง (tinnitus) โดยเฉพาะในลักษณะ เสียงดังเต้นตามจังหวะชีพจร (pulsatile tinnitus) อาจเป็นสัญญาณเตือนของ ปัญหาสุขภาพร้ายแรงที่แฝงอยู่ เช่น โรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง หรือเนื้องอกในสมองบางชนิด 

Tinnitus คือ อาการได้ยินเสียงในหูแม้ไม่มีแหล่งเสียงจริง เช่น เสียงหวีด เสียงลม หรือเสียงชีพจร ผู้ป่วยบางรายพบว่าอาการ “เสียงดังในหู” เรื้อรังส่งผลต่อการนอน การมีสมาธิ และสุขภาพจิต แต่สิ่งที่น่ากังวลที่สุด คือ ถ้าเป็น “เสียงที่เต้นตามจังหวะชีพจร” อาจบ่งชี้ถึงโรค เช่น 

1. หลอดเลือดในสมองโป่งพอง (aneurysm) 

2. เนื้องอกประสาทหูชั้นใน (Acoustic neuroma) 

3. โรคหลอดเลือดสมองผิดปกติเอวีเอ็ม (AVM) 

4. ภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ (Idiopathic Intracranial Hypertension) 

ข้อแนะนำ: 

1. หากมีอาการเสียงในหู โดยเฉพาะแบบเต้นตามชีพจร ควรรีบพบแพทย์เฉพาะทางหู คอ จมูก หรือศัลยแพทย์ระบบประสาท 

2. การวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ สามารถช่วยป้องกันหรือจัดการกับภาวะที่ร้ายแรงกว่าที่ซ่อนอยู่ได้ 

หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการข้างต้น อย่าชะล่าใจนะคะ หากไม่แน่ใจควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจที่ถูกต้อง “อีจันเป็นห่วงนะคะ” 

ที่มา : เฟซบุ๊ก วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี https://www.facebook.com/moo.werasak.charaschaisri/posts/4250899948525810

อ้างอิงข้อมูลจาก : Baguley, D., McFerran, D., & Hall, D. (2013). Tinnitus. The Lancet, 382(9904), 1600-1607