
ใครจะคิดว่ารอยแบบนี้คือพยาธิ?
วันนี้(21 ก.ค.68) เพจเฟซบุ๊ก เอฟเอ็มซีคลินิกเวชกรรม ออกมาโพสต์พร้อมยกเคสคนไข้เตือนเป็นอุทาหรณ์ โดยระบุว่า…ไม่ใช่รอยเกา รอยตี แต่นี่คือรอยไชของพยาธิ
เมื่อชายอายุ 64 ปี ทำงานเกี่ยวกับการจัดการน้ำเสียและอาศัยอยู่ในเขตเมืองของประเทศสเปนมาตลอดชีวิต เกิดมีผื่นคันและท้องเสียเล็กน้อย ขณะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากภาวะไขสันหลังถูกกดจากก้อนมะเร็ง ผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดชนิดอะดีโนคาร์ซิโนมาที่แพร่กระจายแล้ว ผู้ป่วยเพิ่งเริ่มใช้ยากลูโคคอร์ติคอยด์ขนาดสูงเมื่อ 4 วันก่อนเริ่มมีอาการดังกล่าว ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ผู้ป่วยมีภาวะเม็ดเลือดขาวอีโอซิโนฟิลในเลือดสูงแบบเป็น ๆ หาย ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ โดยค่ามากที่สุดที่เคยตรวจได้คือ 2300 เซลล์/ไมโครลิตร (ค่าปกติ <500 เซลล์/ไมโครลิตร)

เมื่อทำการตรวจร่างกายพบรอยโรคเป็นทางยกนูน สีแดง ลักษณะคดเคี้ยวใต้ผิวหนัง (Panel A) โดยรอยโรคเริ่มจากบริเวณรอบทวารหนักและแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปยังลำตัวและแขนขา แพทย์ใช้ปากกาวาดเส้นรอบรอยโรคไว้ (Panel B) และเมื่อประเมินซ้ำหลังจาก 24 ชั่วโมง พบว่ารอยโรคเคลื่อนที่ไปจากตำแหน่งเดิม (Panel C) ผลตรวจอุจจาระพบตัวอ่อนระยะ rhabditiform และ filariform ของพยาธิ Strongyloides stercoralis จึงวินิจฉัยว่าเป็น กลุ่มอาการ Strongyloides hyperinfection syndrome ร่วมกับ larva currens Larva currens คือผื่นแดงคันหรือเป็นรอยคดเคี้ยวใต้ผิวหนังซึ่งเคลื่อนที่ได้ เกิดจากตัวอ่อนระยะ filariform เคลื่อนที่ใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวงจรชีวิตพยาธิที่ถูกเร่งให้เร็วขึ้นในภาวะ hyperinfection หลังได้รับการรักษาด้วยยา ivermectin รับประทาน อาการผื่นและท้องเสียของผู้ป่วยดีขึ้น
บอกเลยว่า แค่เห็นก็คันแทนแล้วค่ะ ดูไว้เป็นอุทาหรณ์นะคะทุกคน
ที่มา: เว็บไซต์ เอฟเอ็มซีคลินิกเวชกรรม https://www.facebook.com/share/p/18eeq5pXsb/