
โหววเอาเข้าจริงมันอันตรายกว่าที่คิดไว้มาก!
วันนี้(16 ก.ค.68) นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์เตือนเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพกันสักหน่อย โดยอิงจากเหตุการณ์ที่ทำเอาทุกคนตกอกตกใจ เมื่ออินฟลูฯสาวรายหนึ่ง เกิดเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ หลังจากที่มีการใส่ส้นสูงร่วมกับก้มๆเงยๆหลายครั้งมากเพื่อถ่ายทำคอนเทนต์ แล้วสุดท้ายก็ตุ้บ เข้าโรงพยาบาลแบบด่วนๆ


ล่าสุด หมอเจด ได้ออกมาอธิบายเรื่องนี้เพิ่มเติมว่า การเงยคอก็เป็นสโตรกได้ อย่างกับเคสด้านบนนี้ แต่ถ้าถามว่าเสี่ยงยังไงบ้าง? มีคำตอบให้ค่ะ

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้หมอเจดมีการไปเจอคลิปนึง เป็นสาวอายุ 32 ไม่มีโรคประจำตัวเลยไม่ได้เป็นเบาหวาน ความดัน หรือไขมันในเลือด แต่เรื่องมันเกิดจากถ่ายคลิป TikTok “เงยหน้า หงายคอ” ประมาณ 17 ครั้ง แล้วอยู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนจะเป็นลม หูอื้อ ฟังเสียงไม่ค่อยได้ยิน ปวดหัวข้างขวามาก ๆ พูดไม่ออก พูดแล้วไม่เป็นคำ เลยรีบถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล จนสุดท้ายเข้าห้อง ICU
ซึ่งการเป็นสโตรกไม่ได้เกิดในคนแก่ คนที่เป็นเบาหวาน ความดัน แต่มันเกิดได้กับทุกคน ถ้า “เส้นเลือดมีปัญหาเฉียบพลัน” ซึ่งการ “เงยคอถ่ายคลิปแรง ๆ ซ้ำ ๆ” ทำให้เส้นเลือดตรงคอฉีก เลือดที่ไหลในหลอดเลือดนั้นเลยเปลี่ยนเป็นลิ่มแล้วลิ่มเลือดก็ไหลขึ้นไปอุดที่สมอง ไม่ใช่โรคที่เจอบ่อย แต่มาแบบไม่ให้ตั้งตัว เพราะแค่เล่นโยคะผิดท่า หักคอผิดองศา หรือขับรถแล้วหันคอแรง ๆก็เกิดได้ ถ้าร่างกายเราอ่อนล้า พักผ่อนน้อย หรือเส้นเลือดเปราะซึ่งจริงๆยังเกิดได้จากหลายปัจจัยเลย ไม่ว่าจะเป็น ดื่มน้ำน้อย, นอนน้อย, เครียดเรื้อรัง, ทำแต่งาน ไม่มีเวลาพัก

ทั้งนี้สโตรกไม่จำเป็นต้องเริ่มจากแขนขาอ่อนแรงเสมอไป ในคนอายุน้อย บางคนจะเริ่มจากอาการที่เรานึกไม่ถึง เช่น หูอื้อ เหมือนมีอะไรอุดอยู่ในหู, ปวดหัวข้างเดียว แบบรุนแรงมาก อยู่ ๆ ก็มา, พูดไม่ออก หรือพูดแล้วฟังไม่รู้เรื่อง, ปากเบี้ยว มุมปากตก เหมือนกล้ามเนื้อข้างหนึ่งหายไป, ไม่มีแรง เดินไม่ได้ มือเท้าไม่มีแรง จับของตก
สิ่งที่ทุกคนต้องทำเพื่อป้องกันสโตรกในคนวัยทำงาน
-งดหักคอแรง ๆ หรือเงยหน้าแรง ๆ ซ้ำ ๆ โดยเฉพาะตอนเหนื่อย
-ดื่มน้ำให้พอ อย่างน้อยวันละ 1.5–2 ลิตร
-พักผ่อนให้พอ อย่านอนน้อยต่อเนื่องหลายวัน
-เคลื่อนไหวสม่ำเสมอ ไม่ปล่อยให้ร่างกายเฉา
-จัดการความเครียดให้ดี เพราะความเครียดเรื้อรังทำให้เลือดหนืด เสี่ยงลิ่มเลือด
-อย่าใช้ร่างกายแบบหนัก แบบหักโหมเกินไป
อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกคนเช็กสุขภาพนะคะ และป้องกันตัวเองจากอาการเหล่านี้ เพราะสิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่แค่ “เสียชีวิต” แต่คือการ “นอนติดเตียง” หรือมีชีวิตที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ถ้าใครมีอาการตามที่เล่ามา ไม่ว่าจะเป็น หูอื้อ พูดไม่ออก ปากเบี้ยว ปวดหัวข้างเดียว เดินไม่ได้ อย่ารอ อย่าคิดว่าเดี๋ยวหายเอง รีบไปโรงพยาบาลให้ทัน “ภายใน 4 ชั่วโมง”
ที่มา: เพจเฟซบุ๊ก หมอเจด https://www.facebook.com/share/p/1DxiTHUyz2/