เป็นประเด็นที่สังคมกำลังให้ความสนใจเลยค่ะ หลังจากมีคนโดนใบสั่งออนไลน์ แล้วยื่นฟ้องศาลเพราะมองว่า ใบสั่งลักษณะแบบนี้ไม่เป็นธรรม รัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ประชาชนไม่มีสิทธิโต้แย้ง ไม่ได้รับการพิจารณาโทษตามข้อเท็จจริง ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ
และต่อมา ศาลปกครองกลางก็มีคำพิพากษาเพิกถอนประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องกำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร พ.ศ. 2563 และประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องการกำหนดจำนวนค่าปรับตามที่เปรียบเทียบสำหรับความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 พ.ศ. 2563 โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ออกประกาศดังกล่าว
ซึ่งขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญทางอาญา และขัดต่อมาตรา 26 และมาตรา 29 ของรัฐธรรมนูญ เป็นการออกกฎที่ขัดต่อหลักนิติธรรมไม่เปิดโอกาสให้โต้แย้งคัดค้าน อีกทั้งทำให้ผู้ถูกกล่าวหา ไม่ได้รับการพิจารณาโทษตามข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์แห่งการกระทำ
เมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยต่างๆ นานา อย่าง คนที่จ่ายไปแล้วล่ะจะทำยังไง คนที่โดยใบสั่งแต่ยังไม่จ่ายต้องจ่ายมั้ยแล้วจะได้รับผลกระทบเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงบ้าง ‘อีจัน’ จึงได้สอบถามไปยัง “ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต” ถึงประเด็นดังกล่าว
ทนายเจมส์ กล่าวว่า คำพิพากษาดังกล่าวเป็นคำพิพิพากษาขอศาลชั้นตั้น ซึ่งต้องรอดูว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร สำหรับใครที่เคยโดนหมายสั่งดังกล่าวและจ่ายไปแล้วให้รอดูก่อน ส่วนใครที่โดนใบสั่งแล้วยังไม่จ่าย ควรดำเนินการจ่ายให้ให้เรียบร้อย เพราะหากไม่จ่ายค่าปรับตามระยะเวลาที่กำหนด จะมีปัญหาในการต่อภาษีรถ และงดออกป้ายวงกลม ทำให้มีความผิดฐานขับรถโดยไม่ต่อภาษีทะเบียนรถได้
ทนายเจมส์ ยังกล่าวต่ออีกว่า แม้ใบสั่งดังกล่าวจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่ความผิดต่างๆ ที่ทำไว้ก็ไม่ได้ยุติลง อนาคตอาจมีการปรับเปลี่ยนใหม่ให้ประชาชนมีสิทธิโต้แย้งมากขึ้น
ทั้งนี้ ต้องคอยติดตามว่า จะมีฝ่ายใดอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นหรือไม่ และคดีนี้จะจบลงอย่างไร ที่สำคัญ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีแนวทางแก้ไขเกี่ยวกับค่าปรับที่รับเงินจากประชาชนไปแล้วตั้งแต่ ปี 2563 อย่างไร และหลังจากที่ศาลปกครองมีคำพิพากษาแล้ว สตช. จะยังคงออกใบสั่งโดยอาศัยประกาศฉบับดังกล่าวอีกหรือไม่ หากมีความเคลื่อนไหว ‘อีจัน’ จะรีบอัปเดตทันทีค่ะ