เรื่องราวความรัก 62 ปี “เจ้าสัวธนินท์” ถึง “คุณหญิงเทวี”

เรื่องเล่าชีวิตคู่สุดประทับใจ ผ่านตัวอักษร ของเจ้าสัวซีพี “ธนินท์ เจียรวนนท์” ถึงภรรยา “คุณหญิงเทวี เจียรวนนท์” ลองอ่านดูครับ แล้วจะรู้ว่าสามีคนนี้รักภรรยาของเขาสุดหัวใจขนาดไหน

ผ่านมาแล้ว 1 สัปดาห์ที่ คุณหญิงเทวี เจียรวนนท์ ภรรยา เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ได้จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ 

อาลัย ‘คุณหญิงเทวี เจียรวนนท์’ ภรรยาเจ้าสัวธนินท์ ถึงแก่อนิจกรรม

วันนี้ (6 ก.ค. 66) อีจันไปเจอเรื่องราว จากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ ที่ได้เล่าถึงค่ำคืนแห่งความอาลัย ในงานของงานคุณหญิงเทวี โดยนายพงศ์สุข เล่าผ่านตัวหนังสือว่า 

“งานเมื่อคืนนี้ เป็นหนึ่งในงานอาลัยภรรยา ที่งดงามที่สุดครั้งหนึ่งที่ผมเคยเห็นมาในชีวิตนี้ งานถูกจัดการอย่างดี Well Organized สมาชิกครอบครัวพิถีพิถันต่อการดูแลแขก และผมคิดไม่ผิดเลยที่ตัดสินใจไปร่วมงานนี้อีกครั้ง”

นอกจากนี้ นายพงศ์สุข ได้หยิบยกหนังสือที่ระลึก ที่เขียนโดยเจ้าสัวธนินท์ ที่ชื่อว่า “แด่ภรรยาที่เป็นสุดที่รัก” ซึ่งเป็นหนังสือที่ถูกแจกให้กับผู้ที่มาร่วมงาน พร้อมบอกว่า ตนสัมผัสความละเอียดอ่อนของคุณธนินท์ได้จากงานเขียน 


จนทำให้แขกที่มาร่วมงานถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความทึ่งในรักแท้ ที่คุณหญิงเทวีและเจ้าสัวธนินท์ มีต่อกันตลอด 62 ปี 


อีจันได้ยกงานเขียนดังกล่าว ที่นายพงศ์สุข ได้ถอดตัวพิมพ์ คัดจากงานเขียนของเจ้าสัวธนินท์ เพื่อนำมาเผยแพร่ ให้ทุกคนได้อ่าน ตามบทความด้านล่างนี้

ผลงานเขียน “แด่ภรรยาที่เป็นสุดที่รัก”
เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

แรกพบ

เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๑ ผมอายุ ๑๙ ปี ผมกลับมาจากฮ่องกง เตรียมตัวไปเรียนที่ออสเตรเลีย ผมได้พบคุณหญิงครั้งแรกที่ชะอำ ผมบอกตัวเองว่า สวยเหลือเกิน เหมือนได้พบนางฟ้า ผมรู้เลยว่าใช่เธอคนนี้ คุณหญิงเป็นคนเปิดเผย ร่าเริง ไม่เหนียมอาย ผมขอถ่ายรูปคุณหญิง แต่ไม่กล้าจีบเพราะผม ยังไม่ประสบความสำเร็จ ผมเจียมตัวว่ายังไม่มีอะไร คิดว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ ผมก็หันไปมุมานะทำงานสร้างฐานะ


ผมตัดสินใจไม่ไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย ผมเริ่มทำงาน ตลอดเวลาสามปี ผมไม่เคยลืมคุณหญิง แล้วผมก็ได้พบคุณหญิงครั้งที่สองในงานแต่งงานของญาติ ผมอายุ ๒๒ ปีแล้ว มีงานทำ มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการสหพันธ์สหกรณ์ค้าไข่แห่งประเทศไทยและบริษัท สหสามัคคีค้าสัตว์ จำกัด พอผมรู้ว่าคุณหญิงยังโสด ผมก็ตัดสินใจขอพาคุณหญิงไปส่งบ้านแล้ววันรุ่งขึ้นผมก็ขอให้พี่ชาย ท่านมนตรี เจียรวนนท์ไปสู่ขอคุณหญิง

ครอบครัวของผมกับครอบครัวของคุณหญิงรู้จักกันอยู่แล้ว ชื่อเสียงของผมในสังคมก็ดี มีงานทำอย่างดี มีรถประจำตำแหน่ง พ่อแม่ของคุณหญิงก็ไม่ปฏิเสธ คุณหญิงเป็นลูกกตัญญู พ่อแม่ไม่ค้าน คุณหญิงก็ตกลงทั้ง ๆ ที่ผมรู้มาว่าคุณหญิงเคยตั้งใจจะไม่แต่งงานกับอาเสี่ย หรือ ลูกเถ้าแก่ เพราะภาพพจน์อาเสี่ยส่วนใหญ่มักเป็นเพลย์บอย คุณหญิงกลัวว่าผมจะนิสัยเหมือนเสี่ยหรือเปล่า

ส่วนผมกลัวว่าคุณหญิงจะชอบเที่ยว ชอบสังคมหรือเปล่า ต่างคนต่างกลัว คิดลบ พอไม่ใช่ก็เป็นบวกไปเลย

ผมคิดว่าถ้ารักจริงก็ไม่ต้องจีบกัน ตอนจีบกันจะเห็นดีทุกอย่าง ยอมทุกอย่าง จะพูดอะไรก็ได้ พอแต่งงานแล้วจะเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม ผิดหวังกันไปอีก

คุณหญิงพบว่าผมไม่ได้ทำตัวเป็นเสี่ย ผมทำงานจริง เข้าผู้ใหญ่ได้ เข้ากับนักธุรกิจได้ เรียนรู้จากการทำงาน ส่วนผมก็แปลกใจที่คุณหญิงไม่ชอบเที่ยว ไม่ชอบออกสังคม แต่สมถะ

ตั้งแต่หมั้นกัน ผมดูแลคุณหญิงอย่างดี มีรถรับส่ง ไม่ให้ขึ้นรถเมล์แม้แต่ครั้งเดียว

ต้นปีขอ สิ้นปีก็แต่ง รดน้ำที่พระที่นั่งนงคราญสโมสร เรือนหอ เป็นบ้านหลังใหญ่ย่านฝั่งธนฯ ลูกสาวคนโตเกิดที่บ้านหลังนี้

ครองคู่

ผมกับคุณหญิงใช้ชีวิตร่วมกัน ผมทำงานแทบไม่มีวันหยุดพักผ่อน คุณหญิงเป็นแม่บ้านเต็มตัว ดูแลทุกอย่าง คุณหญิงซื้อใจผมตรงที่คุณหญิงรอผมเสมอ แล้วไม่เคยต่อว่า ผมทำงานกลับบ้านมาดึกแค่ไหน คุณหญิงก็รออยู่ ไม่ทะเลาะ ไม่โวยวาย เข้าใจผมทุกเรื่อง


ผมประสบความสำเร็จทางธุรกิจได้เพราะคุณหญิงทำให้ผมหายห่วงเรื่องทางบ้าน ผมไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง ลุยทำงานเดินหน้าได้เต็มที่ ผมคิดว่ายิ่งผมประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่ เป็นที่ยอมรับมากเท่าไหร่ ในฐานะภรรยา คุณหญิงก็ยิ่งได้รับเกียรติมากเท่านั้น ผมรักคุณหญิง ผมก็อยากให้คุณหญิงมีเกียรติ ได้รับการยกย่อง

ที่ผมประทับใจที่สุดคือคุณหญิงไม่เคยขอเงินผมเลย ผมให้เท่าไหร่คุณหญิงก็ใช้เท่านั้น อยากได้อะไรก็ไม่ขอ ไม่ฟุ่มเฟือย เก็บออมเงิน ซื้อที่ดินซื้อเครื่องเพชร ไม่ได้ซื้อเครื่องเพชรไว้อวด ซื้อให้ลูกห้าคน

คุณหญิงแต่งตัวออกงานจะเนี้ยบ ทำผมแต่งหน้าเอง ถ้าอยู่บ้านก็จะแต่งตัวธรรมดา คุณหญิงสมถะ ไม่ค้านที่ผมทำธุรกิจ แต่ดูแลผมอย่างดี ให้ผมรู้ว่าเป็นห่วง

คุณหญิงทำอาหารอร่อยมาก ผมชอบอาหารอะไร คุณหญิงจะพยายามเสาะหาและทำให้ผมทาน ถ้าไม่มีงานอะไร ผมจะกลับบ้านมาทานอาหารที่บ้าน

คุณหญิงไม่ชอบเที่ยว ไม่ฟุ่มเฟือย สมถะ ชอบธรรมชาติ เข้าป่า พักผ่อนกับครอบครัว

คุณหญิงไม่ชอบบ้านหลังใหญ่ เราย้ายจากบ้านฝั่งธน ฯ มาสร้างบ้านเลขที่ 975 สุขุมวิทซอย 50 คุณหญิงชอบบ้านหลังนี้มาก เป็นบ้านสองชั้นเหมือนบ้านตากอากาศ ส่วนบ้านวินด์มิลล์ คุณหญิงรู้สึกว่าหลังใหญ่เกินไป คุณหญิงไม่เคยบอกว่าอยากอยู่บ้านหลังใหญ่หลังโต บ้านที่เขาใหญ่ก็ชอบบ้านหลังแรก สร้างจากไม้สัก ภายหลังสร้างหลังใหญ่เพื่อให้ลูกหลานทุกคนอยู่ด้วยกันได้ มีสวนตรงกลาง ได้ใกล้ชิดกัน ได้ไหว้พระ ดูสวนกุหลาบ

คุณหญิงมีน้ำใจ ช่วยเหลือทุกคน ดูแลบริวารอย่างดีเป็นที่พึ่งของคนมากมาย

ที่สำคัญคุณหญิงกตัญญูอย่างยิ่งต่อบุพการีและสอนลูก ๆ ทุกคนให้รักผม สอนลูกว่าพ่อเสียสละเพื่อลูก ที่จริงแล้วคุณหญิงเสียสละมากที่สุดเพื่อทุกคนในครอบครัว

ความรักยิ่งใหญ่

ใครจะเชื่อว่าคุณหญิงเลี้ยงลูกเองทุกคน ตื่นมาชงนมให้ลูกทุกสองชั่วโมง ไม่เปิดไฟ กลัวผมตื่น บางทีน้ำร้อนลวกมือคุณหญิงรีบตื่นถ้าลูกร้อง เห็นผมทำงานหนักก็อยากให้นอนเต็มที่

คุณหญิงจะดูแลผมและลูกๆ ก่อนนอนทุกวันคุณหญิงจะดูว่าทุกคนกลับมาบ้านหรือยัง ใครชอบทานอาหารอะไร คุณหญิงจำได้หมด ดูแลทุกคนทุกวันจริงๆ

เรื่องไปต่างประเทศ ถ้าผมชวน คุณหญิงจะดีใจแต่ถ้าผมไม่ไป คุณหญิงไปคนเดียวก็จะไม่ไป คุณหญิงไม่ยอมทิ้งผมอยู่คนเดียว เราไปไหว้พระที่จีนและญี่ปุ่นทุกปี ผมดีใจที่ไปไหน ๆ กับคุณหญิง

เรื่องเดียวที่คุณหญิงขอคือวันไหว้พระจันทร์ ขอให้ได้อยู่ด้วยกัน ผมอยู่ที่ไหนก็ต้องกลับมาหาคุณหญิงมาไหว้พระจันทร์ด้วยกัน คุณหญิงขอไว้ปีละครั้ง

ทุกปีผมให้ของขวัญวันเกิดวันแต่งงานเป็นเงิน แล้วแต่คุณหญิงจะอยากได้อะไร แต่คุณหญิงประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือย ครั้งสุดท้ายผมให้แหวนเพชรเป็นของขวัญครบรอบแต่งงาน คุณหญิงสวมไว้ตลอดจนวิกฤติเข้าโรงพยาบาลถึงถอด คุณหญิงไม่เคยบอกว่าชอบหรือไม่ชอบ แต่อะไรที่ผมให้ถูกใจคุณหญิงหมด

ในยามป่วยไข้

ผมดูแลคุณหญิง ไม่เคยละเลย พาคุณหญิงไปตรวจที่สหรัฐอเมริกาปีละสองครั้งติดต่อกันเป็นเวลากว่ายี่สิบปีผมเข็นรถพาคุณหญิงชมสวนกุหลาบที่บ้านพักเขาใหญ่ ผมถือเป็นหน้าที่ของผมที่จะดูแลคุณหญิงเอง ป้อนผลไม้ ดูทีวี ฟังเพลงด้วยกัน

ผมทำทุกวิถีทางในการรักษา คุณหญิงไม่เคยบ่นว่าเจ็บปวดไม่เคยพูดว่า ไม่ไหวแล้ว อดทนมากที่สุด อดทนจริงๆ เพราะไม่อยากให้คนอื่นเสียใจ

คุณหญิงกลับเป็นฝ่ายห่วงผม สั่งเสียให้ผมดูแลตัวเองและดูแลลูก ในใจคุณหญิงห่วงทุกคน

ผมถือว่าผมตอบแทนบุญคุณคุณหญิงไม่ดีพอ ที่ผ่านมาผมถือว่างานเป็นเรื่องที่ผมทำเพื่อครอบครัว เพื่อส่วนรวม ผมถือว่าคุณหญิงเป็นเรื่องส่วนตัวของผมคนเดียว ผมยกให้งานเป็นที่หนึ่ง คุณหญิงเป็นที่สอง ถ้าผมมีโอกาสอีกครั้ง ผมจะให้คุณหญิงเป็นที่หนึ่ง ผมจะให้เวลามากขึ้นในช่วงเวลาที่คุณหญิงสบายดี ไม่ใช่เมื่อป่วยแล้วถึงให้เวลามากขึ้น

ผมถือว่าตัวเองโชคดี ได้คุณหญิงเป็นคู่ชีวิตหาผู้หญิงแบบนี้ไม่ได้แล้ว

คุณหญิงรักผมสุดหัวใจ ไม่ว่าจะป่วยแค่ไหน ถ้าผมไปเยี่ยมจะยิ้มให้ คุณหญิงจะเก็บเรี่ยวแรงไว้พูดคุยกับผม ถ้าผมเฝ้าอยู่นานๆ ก็จะเป็นห่วงว่าผมจะเหนื่อย บอกผมให้ไปพักผ่อน

คำพูดสุดท้ายก่อนย้ายเข้าห้องไอชียู คุณหญิงพูดกับผมว่า “อยู่คนเดียวต้องดูแลตัวเองให้ดี ดูแลลูก ๆ ด้วย” คุณหญิงห่วงผมและลูก ๆ มากกว่าห่วงตัวเอง

ฝากไว้จากใจ

“ผู้ชายที่ประสบความสำเร็จ เบื้องหลังคือมีภรรยาที่ดีเสียสละ ให้การสนับสนุน ไม่ทำให้เสียเวลา ไม่ทำให้กลุ้มใจ”

“ภรรยาคือแม่ของลูกที่มีบทบาทสำคัญในการอบรมสั่งสอนการใช้ชีวิต ครอบครัวที่รักใคร่กันสำคัญมาก เพื่อครอบครัวต้องเสียสละได้”

“การครองคู่กันต้องรู้จักให้อภัย อดทน สนับสนุนกัน ไม่หาเรื่อง ไม่ทะเลาะ”

“แม้จนวันนี้ ผมยังรู้สึกกับคุณหญิงเหมือนวันแรกที่พบกัน”

ด้วยรักและอาลัยสุดหัวใจ

เฮียของโส่ย

ธนินท์ เจียรวนนท์

นี่เป็นบทความสุดซึ้ง และเป็นบทความสุดท้าย ที่เจ้าสัวธนินท์ ได้ถ่ายทอดความงดงามของความรัก ของชายหญิงคู่หนึ่ง ที่ครองคู่กันมานาน ผ่านตัวหนังสือที่คัดมาจากชีวิตจริง 

จันได้อ่านแล้ว รับรู้ถึงความรักความห่วงใย ที่ทั้งคู่มอบให้กันมาตลอด 62 ปี สุดท้ายนี้ จัน ขอแสดงความอาลัย คุณหญิงเทวี เจียรวนนท์ ไว้ ณ ที่นี้ค่ะ