รอเปิด! “บิ๊กเต่า” เผย มีข้อมูลคนบงการรีดเงินอธิบดีกรมการข้าว

“บิ๊กเต่า” เผยมีข้อมูลคนบงการ รีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว เตรียมขยายผลสอบหน่วยงานอื่นซึ่งถูกเรียกรับเงินกว่า 100 ล้านบาท

คดีศรีสุวรรณ จรรยา เรียกเงินอธิบดีกรมการข้าว กำลังเป็นประเด็นร้อน ล่าสุด “บิ๊กเต่า” เผยมีข้อมูลคนบงการเบื้องหลังขบวนการรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว และเตรียมขยายผลสอบหน่วยงานอื่นๆ ถูกเรียกรับเงินกว่า 100 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

วันนี้ (29 ม.ค.67) พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการ ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยภายหลังการประชุมชุดสืบสวนนัดแรกกว่า 2 ชั่วโมงในคดีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา กับพวกรวม 3 ราย ได้ร่วมกันข่มขู่เรียกเงินอธิบดีกรมการข้าวจำนวน 3 ล้านบาท แลกกับการไม่ร้องเรียนโครงการทุจริต โดยกล่าวว่า การสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานมีความคืบหน้าไปอย่างมาก โดยเฉพาะคำให้การของอธิบดีกรมการข้าวที่ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก และยังมีพยานหลักฐานอื่น ๆ อีกหลายส่วน ซึ่งสามารถระบุถึงพฤติการณ์ของขบวนการดังกล่าวได้ชัดเจนว่ามีการวางแผนทำเป็นขั้นตอน ทั้งคนชี้เป้า คนเคลียร์ คนรับเงิน และยังพบผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกหลายคน ซึ่งจะต้องเรียกเข้ามาสอบปากคำ

พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ  กล่าวว่า มีคนหนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นคนให้ข้อมูลกับระดับ ‘ผู้สั่งการ’ ในขบวนการดังกล่าวให้ร้องเรียนในที่ต่างๆ  และยังมีข้อมูลว่ามีหน่วยงานอื่นที่ถูกเรียกรับทรัพย์จากกลุ่มดังกล่าวในระดับ 100 ล้านบาท แต่ยังไม่มีการจ่ายเงิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานดังกล่าวว่าจะเข้ามาให้ข้อมูลหรือไม่

ทั้งนี้ ตำรวจเชื่อว่า น่าจะมีผู้สั่งการในระดับที่สูงขึ้นไปอีกนอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้ง 3 คนขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน  ยืนยันว่า ตำรวจยังต้องการตัว ‘ปลาใหญ่’ กว่านี้ แต่ไม่ขอระบุเป็นนักการเมืองหรือไม่ ส่วนกรณีของอธิบดีกรมฝนหลวงที่อาจจะถูกกลุ่มนี้เรียกรับเงินนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีมูล ซึ่งหากตำรวจพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงกรณีอื่นก็จะเปิดเผยให้รับทราบ 

ส่วนความคืบหน้าในการตรวจสอบวงจรปิดบริเวณรอบบ้านนายศรีสุวรรณ รวมถึงโทรศัพท์ของผู้เสียหายนั้น อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบทุกขั้นตอน คาดว่าจะเสร็จในวันนี้ แต่จะเข้าข่ายความผิดมูลฐานฟอกเงินหรือไม่นั้นยังต้องตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับการรับผลประโยชน์ในคดีก่อนหน้านี้อย่างไรบ้าง 

ทั้งนี้ ยืนยันว่าชุดพนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับแรงกดดันจากฝ่ายการเมืองมา แต่อย่างใดและยังไม่มีใครติดต่อมา หากมีก็รับมาตรา 157 ไปก่อน

ส่วนกรณีที่ในคลิปเสียงสนทนามีการกล่าวอ้างถึงบุคคลอื่นในขบวนการ เช่น นักข่าว หรือตำรวจก็อาจต้องเรียกมาชี้แจง แต่ผู้ต้องหาก็สามารถกล่าวอ้าง หรือมีสิทธิ์พูดอย่างไรก็ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรับฟัง แต่จะดำเนินการไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ 

พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ยังกล่าวถึงพฤติการณ์ของบุคคลเหล่านี้ว่า มีการกระทำกันจนย่ามใจ ไม่รู้ว่าขอบเขตของกฎหมายเป็นอย่างไร และบางคนมีทรัพย์สินร่ำรวยมีบ้าน 10 หลัง มีที่นาเป็น 100 ไร่ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะต้องตรวจสอบต่อไป