หลังเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมาระหว่าง กาลาตาซาราย กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จบลงด้วยผลเสมอ 3-3 ทำให้โอกาสเข้ารอบของทีมดังพรีเมียร์ลีกค่อนข้างริบหรี่ ก็ยังคงมีประเด็นให้ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง เมื่อสื่อต่างประเทศได้ตั้งข้อสังเกตุว่า ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จากลูกฟรีคิกของ กาลาตาซาราย นั้น ควรต้องยิงใหม่ และไม่สมควรที่จะเป็นประตู
จังหวะดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงนาทีที่ 29 ของการแข่งขัน เมื่อ บรูโน่ แฟร์นันดส์ กัปตันทีม แมนยู ทำฟาล์วผู้เล่นเจ้าถิ่นที่หน้ากรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกฟรีคิก ก่อนที่ ฮาคิม ซีเย็ค จะสังหารเข้าไป แต่เมื่อมาย้อนดูภาพช้า สื่อต่างประเทศหลายสำนักต่างให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า มันไม่สมควรเป็นประตู ผู้ตัดสินควรให้ยิงใหม่ ซึ่งสาเหตุนั้นก็เพราะว่า ตำแหน่งผู้เล่นฝ่ายรุก อยู่ห่างจากกำแพงที่นักเตะ แมนยู ยืนเรียงแถวอยู่ไม่มากพอ หรือใกล้เกินไปนั่นเอง
If three or more defending players form a wall… all attacking players must remain at least one metre from the wall until the ball is in play.
— beIN SPORTS (@beINSPORTS_EN) November 29, 2023
GALATASARAY'S GOAL SHOULD NOT HAVE STOOD! #beINUCL #MUFC pic.twitter.com/Wj4wJjz03r
หากว่ากันตามกฎของคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ (FIAB) มีกฎกติกาเกี่ยวกับการเล่นลูกฟรีคิกระบุไว้ว่า เมื่อมีการเล่นลูกฟรีคิก ถ้าผู้เล่นฝ่ายรับตั้งกำแพงด้วยนักเตะ 3 คนขึ้นไป หรือมากกว่านั้น ฝ่ายที่เล่นเกมรุก หรือคนที่กำลังจะยิงฟรีคิก จะต้องอยู่ห่างจากกำแพงอย่างน้อย 1 เมตร หรือ 100 เซนติเมตร แต่จังหวะดังกล่าวนั้นมีการทำกราฟิกออกมาว่า ผู้เล่นของ กาลาตาซาราย อยู่ห่างจาก ผู้เล่นของ แมนยู ที่ตั้งกำแพงอยู่เพียง 61 เซนติเมตรเท่านั้น
ทั้งนี้ ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มจะเหลือการแข่งขันอีกเพียงนัดเดียวเท่านั้น ซึ่งทีมปีศาจแดง ต้องเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ให้ได้เท่านั้น และต้องลุ้นให้ กาลาตาซาราย กับ เอฟซี โคเปนเฮเกน จบลงด้วยผลเสมอเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : beIN SPORTS, www.thesun.co.uk, www.dailymail.co.uk