วันนี้ (31 มี.ค. 64) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า จะมีความกดอากาศต่ำต่อเนื่องจากความร้อนปกคลุมบริเวณตอนบนของไทย ทำให้บริเวณดังกล่าว มีอากาศร้อนหลายพื้นที่ และมีอากาศร้อนจัดบางแห่งที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง โดยมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้ และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมตอนบนของไทย ทำให้มีฝนฟ้าคะนอง และลมตะวันออกปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และช่วงวันที่ 31 มี.ค. – 2 เม.ย. 64 จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำที่บริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง ที่เคลื่อนเข้ามาบริเวณทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางแห่ง และคลื่นลมทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ให้ประชาชนที่ภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตก และชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรระมัดระวังขณะเดินเรือ
อุณหภูมิแต่ละภาค 24 ชั่วโมงข้างหน้า มีรายละเอียดดังนี้
ภาคเหนือ
มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด กับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากที่บริเวณจังหวัดตาก น่าน พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 23-28 องศาเซลเซียส และมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 37-40 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด กับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากที่บริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ และนครราชสีมา ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส และมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 38-40 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง
มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด กับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากที่บริเวณจังหวัดราชบุรี และกาญจนบุรี ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 25-27 องศาเซลเซียส และมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 37-40 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก
มีอากาศร้อน กับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 25-28 องศาเซลเซียส มีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 33-39 องศาเซลเซียส มีลมที่มาจากทางตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. และทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ตรงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 32-36 องศาเซลเซียส ลมจากทางตะวันออกเฉียงใต้ ที่ความเร็ว 15-30 กม./ชม. และทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง มีอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมจากทางตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. และทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีอากาศร้อน กับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน มีอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 27-28 องศาเซลเซียส และมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 35-39 องศาเซลเซียส