(วันนี้ 11 มิ.ย.68) กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศแจ้งเตือน ฉบับที่ 4 (138/2568) เรื่องพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ซึ่งมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็น พายุโซนร้อน โดยขณะนี้ พายุมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน ประมาณ 450 กิโลเมตร พิกัดที่ละติจูด 15.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.0 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางอยู่ที่ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
กรมอุตุฯ รายงานว่า พายุลูกนี้ไม่เข้าสู่ไทยโดยตรง แต่จะส่งผลกระทบทางอ้อม แม้ว่าเส้นทางพายุจะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่จากอิทธิพลของพายุ จะส่งผลให้ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพัดปกคลุมประเทศไทย รวมถึงทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้เกิด ฝนตกหนักถึงหนักมาก ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขณะเดียวกัน คลื่นลมทะเล จะมีกำลังแรง โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
กรมอุตุฯ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ระมัดระวังอันตรายจาก ฝนตกหนักต่อเนื่อง ฝนสะสม น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะในบริเวณลาดเชิงเขา พื้นที่ใกล้ทางน้ำ และพื้นที่ลุ่มต่ำ
คำเตือนสำหรับชาวเรือ
- คลื่นลมใน ทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังแรง
- อันดามัน : คลื่นสูง 2–3 เมตร / จุดฝนฟ้าคะนองอาจสูงเกิน 3 เมตร
- อ่าวไทย : คลื่นสูง 1–2 เมตร / จุดฝนฟ้าคะนองอาจสูงเกิน 2 เมตร
- ขอให้ เรือเล็กงดออกจากฝั่ง โดยเฉพาะบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน จนถึงวันที่ 13 มิถุนายน 2568
- เรือใหญ่ควรเพิ่มความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
สภาพอากาศรายพื้นที่ประจำวันที่ 11 มิ.ย.68
ภาคเหนือ ฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายจังหวัด เช่น แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ฯลฯ อุณหภูมิ 23–35°C
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ มีฝนตกหนักมากบางแห่งใน จ.เลย หนองคาย สกลนคร มหาสารคาม นครราชสีมา อุบลราชธานี ฯลฯ อุณหภูมิ 23–34°C
ภาคกลาง ฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.นครสวรรค์ ลพบุรี กาญจนบุรี อุณหภูมิ 24–35°C
ภาคตะวันออก ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เช่น จันทบุรี ตราด ระยอง คลื่นทะเลสูง 2–3 เมตร จุดฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงเกิน 3 เมตร
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่ เช่น สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช ทะเลคลื่นสูง 1–2 เมตร จุดฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ มีฝนตกหนักถึงหนักมากใน จ.ภูเก็ต พังงา ระนอง คลื่นทะเลสูง 2–3 เมตร จุดฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ อุณหภูมิ 26–35°C ลมตะวันตกเฉียงใต้ 10–20 กม./ชม.
แม้ศูนย์กลางพายุจะยังไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย แต่อิทธิพลของพายุ และการเสริมแรงของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จะทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ คลื่นลมในทะเลสูง ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงควรเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ล่วงหน้า และติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด