เปิดชื่อ 5 จังหวัด ดัชนีความร้อนระอุ ทะลุ 40 องศา

กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดค่าดัชนีความร้อน 5 จังหวัดระอุ ทะลุ 40 องศาเซลเซียส

หลัง ‘กรมอุตุนิยมวิทยา’ ประกาศเข้าหน้าร้อนอย่างเป็นทางการของไทยปีนี้ เมื่อวันที่ 5 มี.ค.66 ที่ผ่านมา อุณหภูมิทั้งบ้านทั้งเมืองที่ร้อนอยู่แล้ว ดูเหมือนจะร้อนระอุยิ่งขึ้นไปอีก

สภาพอากาศวันนี้ 5 เม.ย.66 สภาพอากาศ ร้อนจัดทุกพื้นที่ ไทยตอนบนมีฝนพายุฤดูร้อน เตรียมถล่มไทยตอนบน 6-9 เม.ย.66

ล่าสุด น.ส.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวกับ ‘อีจัน’ ว่า ค่าดัชนีความร้อน ซึ่งเป็นค่าอุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกได้ โดยคำนวณจากค่าอุณภูมิอากาศและความชื้นสัมพัทธ์ ถ้าความชื้นสัมพัทธ์สูงและอุณหภูมิอากาศสูง จะยิ่งทำให้ค่าดัชนีความร้อนสูงมากยิ่งขึ้นไปด้วย และร่างกายของคนเราจะขับเหงื่อออกไม่ได้ ทำให้รู้สึกร้อนมากกว่าปกติ จึงเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ หากอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์ค่าดัชนีความร้อนสูงสุดรายวัน ระหว่างวันที่ 4-6 เม.ย.66 พบว่า

วันที่ 5 เม.ย.66 ภาคเหนือ ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก มีค่าค่าดัชนีความร้อน อยู่ที่ 41 องศาเซลเซียส ถัดมา ภาคอีสาน จ.ศรีสะเกษ อยู่ที่ 38.4 องศาเซลเซียส ภาคกลาง ที่เขตบางนา 45.5 องศาเซลเซียส ภาคตะวันออก ที่จ.ชลบุรี อยู่ที่ 45.8 องศาเซลเซียส และภาคใต้ ที่ จ.พังงา อยู่ที่ 43.3 องศาเซลเซียส

วันที่ 6 เม.ย.66  ภาคเหนือ ที่ จ.เพชรบูรณ์ อยู่ที่ 40.6 องศาเซลเซียส ถัดมา ภาคอีสาน จ.ศรีสะเกษ อยู่ที่ 41.5 องศาเซลเซียส  ภาคกลาง ที่เขตบางนา 50.2 องศาเซลเซียส  ภาคตะวันออก ที่ อ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี อยู่ที่ 49.4 องศาเซลเซียส และภาคใต้ ที่ จ.ภูเก็ต อยู่ที่ 47.9 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้ ค่าดัชนีความร้อนที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ 

ระดับเฝ้าระวัง แทนค่าดัชนีความร้อน 27-32 องศาเซลเซียส ผลกระทบต่อสุขภาพ คืออ่อนเพลีย วิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัวจากการสัมผัสความร้อน หรือออกกำลังกายหรือทำงานใช้แรงงานท่ามกลางอากาศที่ร้อน 

ระดับเตือนภัย แทนค่าดัชนีความร้อน 32-41 องศาเซลเซียส ผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้เกิดอาการตะคริวจากความร้อน และเกิดอาการเพลียแดดหากสัมผัสความร้อนเป็นเวลานาน 

ระดับอันตราย แทนค่าดัชนีความร้อน 41-54 องศาเซลเซียส ผลกระทบต่อสุขภาพ มีอาการตะคริวที่น่อง ต้นขา หน้าท้อง หรือไหล่ ทำให้ปวดเกร็ง มีอาการเพลียแดด และอาจเกิดภาวะลมแดด (Heat Stroke) ได้หากสัมผัสความร้อนเป็นเวลานาน และสีแดง หมายถึง ระดับอันตรายมาก แทนค่าดัชนีความร้อน 

มากกว่า 54 องศาเซลเซียส ผลกระทบต่อสุขภาพ จะเกิดภาวะลมแดด (Heat Stroke) โดยมีอาการตัวร้อน เวียนศีรษะ หน้ามืด ซึมลง ระบบอวัยวะต่างๆ ในร่างกายล้มเหลว และทำให้เสียชีวิตได้หากสัมผัสความร้อนติดต่อกันหลายวัน

“สังเกตอากาศตัวเอง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ควรลดกิจกรรมกลางแจ้ง หากจำเป็นควรสวมหมวก แว่นกันแดด สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี หากทำงานกลางแจ้งควรทำงานเป็นกลุ่ม ขณะเดียวกัน ควรหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ สุรา น้ำอัดลม และดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ”
น.ส.ชมภารี กล่าว

อย่างไรก็ตาม นอกจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว ยังส่งผลทำให้เราใจร้อนขึ้นอีก ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจทำอะไร ก็อย่าใจเร็ว คิดไตร่ตรองให้ดีก่อน จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง

คลิปอีจันแนะนำ
ชื่นชม ตำรวจฮีโร่ บุกชาร์จตัวชายคลั่งบนสะพาน