DSI ลุยเอาผิด แก๊งฮั้ว สว. ฟอกเงิน เอี่ยว 30 นักการเมือง

DSI ลุยเอาผิด “แก๊งฮั้ว สว.” ฟอกเงิน-ผิดคดีอั้งยี่ พบเส้นเงินโยงนักการเมือง 30 จังหวัด

วันนี้ (17 ก.ค. 68) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย นายสุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 และหน่วยงายที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 กรณีความผิดฐานฟอกเงินของบุคคล หรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รวมถึงผู้ที่เป็นสมาชิกอั้งยี่และผู้สนับสนุน หรือคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. เพื่อหารือกรอบการสอบสวน สรุปผลการดำเนินการว่าสอบสวนปากคำพยานได้ความอย่างไรบ้าง ความคืบหน้าทางคดี และแนวทางการสอบปากคำพยานบุคคลเพิ่มเติม จะเรียกใครเพิ่มอีกหรือไม่ เนื่องด้วยพฤติการณ์ใด รวมถึงจะดำเนินการเร่งรัดการสอบสวนอย่างไรบ้าง ซึ่งหากปรากฏพยานหลักฐานชัดเจนจึงจะได้ขยับขั้นตอนไปเป็นการออกหมายเรียกผู้ต้องหา

สืบเนื่องจาก ภายหลังที่พนักงานสอบสวนได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลภายในขบวนการจัดฮั้ว กระทั่งมีการออกหมายเรียกพยานมากกว่า 12 ราย ทยอยเข้าให้ปากคำชี้แจงกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีการฟอกเงินทางอาญา เนื่องด้วยปรากฏเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับกระบวนการจัดฮั้ว สว. มีการโอนเงินในลักษณะเครือข่ายที่มีการจ้างผู้สมัครใน 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ลำพูน และหนองบัวลำภู รวมถึงยังพบเส้นทางการเงินที่เกี่ยวพันกับสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 24 จังหวัด อย่างไรก็ตาม คำให้การของพยานส่วนใหญ่ยังคงปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับขบวนการจัดฮั้ว แม้เส้นทางการเงินจะประจักษ์ในช่วงวันเวลาก่อนการเลือก ระหว่างการเลือก และหลังเสร็จสิ้นการเลือก สว.ระดับประเทศ ก็ตาม 

ภายหลังการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า การสอบสวนคืบหน้าไปกว่า 70% โดยได้สอบพยานแล้วกว่า 90 ปาก ครอบคลุมทั้งผู้ที่รู้เห็นการวางแผนจัดการเลือกตั้ง และผู้เกี่ยวข้องกับการรับโอนเงิน ขณะเดียวกัน มีการประชุมร่วมกับ ปปง. เพื่อพิจารณาองค์ประกอบความผิดเกี่ยวกับฟอกเงินเพิ่มเติม ยังพบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินกับนักการเมืองระดับท้องถิ่นในกว่า 30 จังหวัด และมีแนวโน้มขยายไปถึงนักการเมืองระดับประเทศ ซึ่งอาจรวมถึงผู้ที่มีตำแหน่งในพรรคการเมือง โดยเงินบางส่วนที่ใช้ในการจัดฮั้ว ถูกโอนกลับไปยังกลุ่มคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งผู้ช่วยหรือที่ปรึกษาประจำตัว สว.

นอกจากนี้ ในการสอบปากคำรอบถัดไป DSI เตรียมเรียกผู้ที่มีชื่ออยู่ในข่ายต้องสงสัย หากพบว่ามีนักการเมืองหรือ ส.ส. เข้าไปเกี่ยวข้อง จะดำเนินการเรียกสอบทั้งหมด ซึ่งมีรายชื่ออยู่แล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ 

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีผู้ต้องสงสัยมากกว่า 100 ราย แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนผู้ต้องหาแน่ชัด ต้องรอผลการสอบสวนและพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาเข้าข่ายทั้งการฟอกเงิน (โอนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับความผิด) และความผิดฐานอั้งยี่ (รวมกลุ่มเพื่อกระทำการอันมิชอบ)  

ทั้งนี้ ดีเอสไอยังไม่ออกหมายเรียกผู้ต้องหาอย่างเป็นทางการ เนื่องจากอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนมากขึ้น คาดว่าในอีกประมาณ 1 เดือนข้างหน้า จะสามารถเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาได้ ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม