เลือกตั้งใหญ่ ใกล้เข้ามาแล้ว หลายๆพรรคการเมือง ก็เริ่มทยอยเปิดนโยบายกันมาเรื่อยๆ
หลายๆนโยบายที่ประกาศกันมา ก็ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตประจำวัน ของคนไทยทุกๆคนทั้งนั้น แต่อีจันได้ไปสะดุดกับนโยบายอันหนึ่ง ที่เห็นแล้วก็ต้องมานั่งนึกว่า นโยบายระดับโครงสร้างนี้ จะทำได้จริงๆหรือ?
นโยบายนั้นคือ นโยบาย “เงินเดือนไม่ถึง 40,000 บาทแรก ไม่ต้องเสียภาษี!” ของพรรคชาติพัฒนากล้า
เรื่องนี้ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า นโยบายนี้พุ่งเป้าไปถึงกลุ่มคนที่ถูกมองข้ามทางการเมืองมาโดยตลอด เป็นกลุ่มคนที่แบกรับภาระภาษีเต็มๆ มายาวนาน นั่นก็คือกลุ่มมนุษย์เงินเดือนและฟรีแลนซ์ เกณฑ์เดิมเงินเดือนต่ำกว่า 26,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งอัตรานี้ไม่ได้เปลี่ยนมายาวนานหลายปี แต่ค่าครองชีพ ค่าผ่อนบ้าน ค่าเดินทางสูงขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทขนาดใหญ่ ได้รับการลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เป็น 20% มายาวนานกว่า 10 ปีแล้ว ประกอบกับการประมาณการรายได้ของรัฐบาลปี 2567 รายได้ภาษีของรัฐจะเพิ่มขึ้นเกือบ 3 แสนล้านบาท จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่กำลังจะดีขึ้น จึงเป็นเวลาที่เหมาะสม ที่ต้องหันมาให้ความช่วยเหลือมนุษย์เงินเดือน
รายได้ที่จะเข้ารัฐส่วนนี้ มีสัดส่วนไม่ถึง 5% ของรายได้รวมของรัฐ หรือ 6,000 กว่าล้านบาทเท่านั้น ถ้าลดภาษีให้ส่วนนี้ได้ จะทำให้คนกลุ่มมนุษย์เงินเดือนและฟรีแลนซ์ มีเงินในกระเป๋ามากขึ้น เชื่อว่าเงินส่วนนั้นจะกลับมาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจแน่นอน และบางส่วนจะกลับมาเป็นรายได้ของรัฐในรูปแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม และย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ มีการหาเสียงเรื่องนี้กันตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2562 ย้อนไปดูว่ามีการพูดถึงเรื่องนี้กันหรือไม่ โดยใคร และตอนนี้ถึงเวลาที่ควรดำเนินการทันที เพราะมันไม่แฟร์
ลองคำนวณง่ายๆว่า มนุษย์เงินเดือนที่เงินเดือน 25,000 บาท ต้องเสียภาษี 5% เท่ากับ 7,500 บาท ต่อปี เฉลี่ยเดือนละ 625 บาท ถ้าเทียบกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกวัน เงินก้อนนี้จำเป็นกับการใช้ชีวิตของใครหลายๆคนมาก ปีละ 7,500 บาท มีผลต่อชีวิตคนๆนึงมากกว่าที่เราคิดนะครับ
นโยบายลดภาษีบุคคล ยกเลิก 5% นี้ ดูจากแนวคิดแล้ว น่าจะมีประโยชน์กับมนุษย์เงินเดือนได้ แต่ต้องมาลุ้นว่า พรรคชาติพัฒนากล้า เจ้าของนโยบายนี้ จะได้เข้าสภาแล้วไปเดินหน้านโยบายนี้ได้หรือไม่?