รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย “บิ๊กเล็ก” มองว่า “กัมพูชา” ไม่ได้พุ่งแค่ นายกฯ แต่ทำทุกทางให้ประเทศไทย ถอยหลัง
วันนี้ (20 มิ.ย.68) เวลา 09.16 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงถึงแถลงการณ์ ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา(ศบ.ทก.) ที่ในช่วงท้ายระบุเหมือนกับว่าจะไม่ได้อยู่ต่อแล้ว ว่า ต้องขออภัยที่ทำให้เข้าใจผิด ซึ่งความจริงไม่ใช่แถลงการณ์ แต่เป็นคำพูดที่ตนพูดกับกรรมการ และน้องๆ ในห้องประชุม ศบ.ทก. และให้ข้อคิดในห้องประชุมว่า “เราในฐานะกรรมการทีมไทยแลนด์ ไม่ต้องมองเรื่องอื่นหรือเรื่องการเมือง ขอให้มองไปข้างนอกประเทศ มองไปที่ชายแดนและความสงบสุขของประชาชน” โดยในหนังสือมีหัวเรื่อง ตัวเรื่อง และท้ายเรื่อง แต่เราตีความที่ท้ายเรื่อง อยากให้ตีความที่ตัวเรื่อง
เมื่อถามว่า เนื้อหาคำแถลงที่ระบุว่า คลิปเสียงหลุดออกมาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการยิงกระสุนนัดเดียวให้นกตายทั้งรัง หมายความว่าอย่างไร?
พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เขาไม่ได้มุ่งต้องการที่นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว คิดว่าการทำเช่นนี้ และอะไรที่เกิดหลังจากนี้ นั่นคือเป้าหมาย หรือหากตนเปรียบเทียบให้พอจะเข้าใจ ทุกคนยอมรับว่าประเทศไทยมีความเจริญมากกว่าประเทศกัมพูชา กัมพูชาเองก็ยอมรับและปัจจุบันเขาก็พยามเร่งรัดพัฒนาประเทศ อะไรก็ตามที่ทำให้ประเทศไทยรอเขาได้เขาก็จะทำ เป็นแนวคิดส่วนบุคคลหรือของพรรคอะไรก็แล้วแต่
“เรื่องอะไรก็ตามที่ทำให้ประเทศไทยถอยหลังไปได้สักก้าว สองก้าว เขาคงพยายามจะทำ”
รมช.กลาโหม ย้ำว่า คำพูดดังกล่าว ตนเพียงต้องการเตือนสติคำพูดคนในห้องประชุมเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับคนข้างนอก เพราะประชาชนข้างนอกมีคนเก่งและนักวิชาการได้ให้คิดเยอะแล้ว ตนในฐานะหัวหน้าทีมไทยแลนด์ก็พูดกับคนในทีม ไม่ได้บังอาจไปแนะนำสั่งสอนประชาชนหรือสื่อมวลชน
ได้รับรายงานเรื่องชาวกัมพูชาขึ้นไปร้องเพลงที่ปราสาท ซึ่งกำลังเป็นข้อพิพาทอยู่นั้นหรือไม่?
พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า ตนยังไม่ได้รับรายงาน แต่ยืนยันว่าทีมไทยแลนด์จะสนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่ในการปกป้องอธิปไตย และขอสื่อมวลชนอย่าปล่อยให้กองทัพปกป้องอธิปไตยตามแนวชายแดนต้องห่วงหน้าพะวงหลัง อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกการเมืองและกฎหมาย หน้าที่ใครหน้าที่มัน ซึ่งหน้าที่ของทีมไทยแลนด์ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง
วันนี้ยังไม่ถอดใจและจะยังทำหน้าที่ให้ถึงที่สุดใช่หรือไม่?
พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า เต็ม 100 และส่วน ครม. เป็นเรื่องการเมือง และเรื่องพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ให้เป็นเรื่องของพรรค ตนไม่ทราบ
ยังคงต้องจับตากันต่อไป ทั้งประเด็นข้อพิพาทไทย-กัมพูชา และการเมืองไทยที่กำลังเดือด หากมีความคืบหน้าจะอัปเดตให้ทราบ