นากยกฯ ขอแรงงานไทยในอิสราเอลกลับบ้าน ชี้ไม่คุ้มเสี่ยงที่จะอยู่ต่อ

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนานตรี ขอแรงงานไทยในอิสราเอลกลับบ้าน หากอยู่ต่อหวั่นอันตรายไม่คุ้มที่จะเสี่ยง สั่ง รมว.แรงงาน ดูแลผลตอบแทนให้ดีขึ้น

วันนี้ 24 ต.ค. 66 หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีในช่วงเช้า นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ได้อัปเดตสถานการณ์ในประเทศอิสราเอลที่ยังมีความรุนแรงและน่าเป็นห่วงอยู่โดยเฉพาะแรงงานไทยที่ยังไม่ได้เดินทางกลับ ชี้เป็นเรื่องที่สำคัญ พร้อมขอบคุณสื่อที่เสนอข่าวถึงความอันตรายไม่คุ้มที่จะอยู่ต่อ 

นากยกฯ เผยว่า วันนี้ในที่ประชุมได้มีการพูดคุยหลายเรื่องด้วยกัน แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดตอนนี้ คือ เรื่องอิสราเอล ปัญหาที่เราเผชิญอยู่นั้นเป็นเรื่องแรงงานไทยที่ยังคงอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก และเป็นเหตุผลว่าทำไมรัฐบาลต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการขยายตัวเร็วที่สุดเพื่อซ่อมแซมและสร้างอนาคตให้กับประชาชน โดยมีแรงงานกว่าสองหมื่นถึงสามหมื่นคนที่เสี่ยงชีวิตอยู่ต่างแดนเพื่อเงินหลักหมื่น หลักแสน  

ซึ่งถ้าเกิดเขาถามกลับว่านายกรัฐมนตรีไม่เข้าใจหรอกการที่มีคนนำเงินมาให้ห้าหมื่นหรือหนึ่งแสนบาท เพื่ออยู่ต่อมันมีความสำคัญกับเขาขนาดไหน เรื่องนี้ตนเองตระหนักดี เพราะฉะนั้น เรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจถึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ประชาชนนับหมื่นคนที่เสี่ยงชีวิตอยู่เพื่อนำเงินกลับมาช่วยเหลือครอบครัวเป็นหลักแสนหรือหลักล้านที่ต้องพึ่งพาการดูแลของเขา ตนเองมองว่านโยบายการเงินการคลังที่ดีต้องไม่ใช่แค่รักษาวินัยการเงินอย่างเดียว แต่สิ่งสำคัญต้องตอบสนองความต้องการของประชาชน ยกระดับความเป็นอยู่ของผู้ประชาชนให้ดี ไม่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อที่จะได้เงินมา  

อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลแรงงานที่ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ เพราะแรงงานที่เดินทางกลับมาเป็นแรงงานที่มีคุณภาพจำเป็นต้องดูเรื่องผลตอบแทนให้ดีขึ้น ส่วนเรื่องของรายงานตัวเลขตัวประกัน ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต ตัวเลขยังคงเดิม โดยการที่เรานำคนกลับมาได้วันละ 600 – 800 คน ยังสามารถดำเนินการได้และยังมีผู้ที่แสดงเจตจำนงที่จะเดินทางกลับประเทศไทยก็มีมากขึ้น และขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยกันนำเสนอข่าวให้กับประชาชนเห็นว่าการอยู่ต่อนั้นอันตรายไม่คุ้มกับการที่จะต้องนำชีวิตไปเสี่ยง