สอบตก! ‘สว.วันชัย’ ให้คะแนนผลงาน 90 วันรัฐบาล แค่ 4 เต็ม 10 คะแนน

ให้กี่คะแนนดี? ผลงาน 90 วันรัฐบาล ‘สว.วันชัย’ ให้แค่ 4 เต็ม 10 คะแนน ต่อยหนัก รำมวยสวย ไหว้คนสวยงาม ลงพื้นที่เก่ง แต่ชกไม่ตรงเป้า

ตามที่กรมประชาสัมพันธ์ โดยส่วนปฏิบัติการและบริหารข้อมูลข่าวสาร สำนักข่าว ได้รายงานการสรุปผลงานรัฐบาลในรอบ 90 วัน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส เร่งแก้ไขปัญหาให้ประชาชน นั้น นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า สรุปผลงานของรัฐบาลได้ดี ทำให้ประชาชนมองเห็นภาพรวมได้ทั้งหมด ทั้งในส่วนของนโยบาย “ลดรายจ่าย” และนโยบาย “เพิ่มรายได้” ซึ่งในรายงานสรุปผลงานรัฐบาลในรอบ 90 วัน มีหัวข้อสำคัญดังนี้

ลดรายจ่าย

1.การลดรายจ่ายด้านพลังงาน และการคมนาคม

  • ปรับลดราคาค่าไฟฟ้าเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย 3 เดือน

  • ปรับลดราคาน้ำมันดีเซลลง 2.50 บาท/ลิตร

  • ลดราคาน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95

  • ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซินลง 1 บาทต่อลิตร

  • ตรึงราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม LPG ขนาด 15 กิโลกรัม ไว้ที่ 423 บาทต่อถัง

  • ลดราคารถไฟฟ้าสีม่วงและสีแดง 20 บาท ตลอดสาย

2.ครม.เห็นชอบจ่ายเงินช่วยค่าเก็บเกี่ยว ไร่ละ 1,000 บาท 4.68 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ

3.ช่วยชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสด ลด PM 2.5 120 บาท/ตัน

4.รัฐบาลประกาศเดินหน้า “การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ” เป็นวาระแห่งชาติ

5.พักหนี้เกษตรกรที่มีหนี้ไม่เกิน 3 แสนบาท

6.บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ นำร่อง 4 จังหวัด (แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส)

เพิ่มรายได้

1.กระตุ้นการท่องเที่ยว วีซ่าฟรีนักท่องเที่ยวจีน/คาซัคสถาน/อินเดีย/ไต้หวัน (ไม่เกิน 30 วัน) รัสเซีย (ไม่เกิน 90 วัน)

2.ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ป.ตรี 18,150 บาท โดยจะปรับขึ้นในอัตรา 10% เป็นระยะเวลา 2 ปี ในปีงบประมาณ 2567 – 2568 การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ ทยอยปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุตามคุณวุฒิเพิ่มขึ้น (ทุกคุณวุฒิ) ในอัตราร้อยละ 10 ภายใน 2 ปี

3.ผลักดันกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท โครงการดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) โดยรัฐบาลจะมอบสิทธิการใช้จ่ายเงินจำนวน 10,000 บาท ให้กับประชาชนที่เข้าเงื่อนไข ซึ่งนโยบายดังกล่าวจะส่งผลดีต่อประเทศใน 2 ด้าน คือช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศในระยะสั้นผ่านการบริโภคและการลงทุน และการวางโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อนำไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และ E-Government ซึ่งเป็นการวางและแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ ในระยะยาว

4.ขยาย OTOP สู่แพลตฟอร์มออนไลน์ สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้สินค้า OTOP

5.One Belt One Road เส้นทางสายไหม

6.ขยายเวลาปิดสถานบริการ นำร่อง 4 จังหวัด กรุงเทพ ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

7.ขยายเวลาการเปิดให้บริการท่าอากาศยานเชียงใหม่ 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และเที่ยวบินที่จะเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ จากเดิมเปิดดำเนินการทำการบิน 18 ชม. หรือตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น. และ

8.ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง

“สิ่งที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้ทุ่มเททำลงไป จะเริ่มผลิดอกออกผลให้เห็นตั้งแต่กลางปี 67 เป็นต้นไป โดยภาพเศรษฐกิจที่เห็นอยู่ในขณะนี้ เป็นผลพวงของสิ่งที่ได้ถูกกระทำไปเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา” นายชัย กล่าว

ด้าน นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวกับ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ ว่า ถ้าคะแนนเต็ม 10 ให้เพียง 4 คะแนน เพราะได้แต่ภาพ อีเวนท์ การลงพื้นที่ ได้แต่ฉาบฉวย แต่ผลงานชิ้นเป็นอันที่จับต้องได้ยังไม่มี ขณะที่การประสานความร่วมมือของนายกรัฐมนตรี ทั้งภาคราชการ และคณะรัฐมนตรียังน้อยเกินไป เพราะอาจชินกับการเป็นผู้บริหารบริษัทภาคเอกชน และยังไม่ทราบว่าการบริหารราชการแผ่นดินมีกลไกกฎหมาย ข้อบังคับ จะทำเหมือนบริษัทขายบ้านจัดสรรไม่ได้

“เปรียบเหมือนมวยที่คนต่อยหนัก ต่อยตลอด แต่ต่อยไม่ตรงเป้า มันวืดไปหมด ตนมองว่านายกรัฐมนตรีรำมวยสวย ไหว้คนสวยงาม ลงพื้นที่เก่ง แต่ชกไม่ตรงเป้า ไม่ได้คะแนน เสียดาย”

ส่วนกระแสข่าวเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีจาก นายเศรษฐา ทวีสิน เป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น นายวันชัย กล่าวว่า หากนายเศรษฐา ทำอย่างที่ทำมา 3 เดือน อาจจะอยู่ยาก แต่อาจจะมีเหตุจำเป็นที่ถึงเวลาประชาชนบอกว่าต้องเปลี่ยน ไม่ใช่เปลี่ยนว่าตัวนายเศรษฐาเองอยู่ไม่ได้ แต่เพราะผลงานไม่เป็นที่ประจักษ์ ไม่เข้าตาประชาชน เหตุผลที่จะเปลี่ยนตัวนายกฯ มาจาก 1.พรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้งแตกแยก ซึ่งตอนนี้มองว่ายังยาก 2.รัฐบาลทุจริต คอร์รัปชั่น 3.ผลงานรัฐบาล มีปรากฏหรือไม่

นายวันชัย กล่าวว่า จังหวะเวลาที่เหมาะสมสำหรับ น.ส.แพทองธาร จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นขอให้ติดตามกันต่อไป แต่ไม่น่าจะใช่ช่วงนี้ คิดว่าอาจจะเป็นปลายๆ สมัยของรัฐบาลใกล้เลือกตั้ง อาจจะเป็นไปได้ แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่เอื้อที่จะเปลี่ยน