“หลีนวรัตน์” ยอมเจ็บรอวันพลิกเกม ปักหลักฐานแน่น “ธัญบุรี”

วิเคราะห์การเมือง “หลีนวรัตน์” พลังเสียงยังแน่นที่ฐาน “ธัญบุรี” นี่ไม่ใช่โมเดลใหม่การเลือกตั้งท้องถิ่นที่ระบบอุปถัมภ์ การช่วยเหลือ การดูแลพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญมากกว่ากระแสการเมืองระดับชาติ และกระแสโซเชียล

ตีลังกาเล่าข่าว โดย “กรรณะ”

ไม่ธรรมดาทีเดียว สำหรับการเคลื่อนไหวของ “ลูกพีช” และ “พ่อเบี้ยว” หลังจากตกเป็นจำเลยสังคมมาร่วมสัปดาห์

วันนี้เราจะมาอ่านเกมผ่านการเมือง หลังจากที่เราเคยบอกไปก่อนหน้านี้ว่าพื้นที่ทางการเมืองของ “ตระกูลหลีนวรัตน์” ตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ ทั้งคนที่หนุนอย่าง “ชาญ พวงเพ็ชร์” ก็พ่ายศึก อบจ. “แดง” ก็ถอนตัว  ส่วน “บิ๊กแจ๊ส” ในสีเสื้อ “น้ำเงิน” ก็รุกไล่ แม้แต่ ผบ.ตร. ก็ยังเล่นใหญ่ไฟกะพริบ

ไม่ถึงครึ่งวันหลังเกิดเหตุ “นายกเบี้ยว” พ่อผู้เก๋าเกม เริ่มรับรู้ถึงสถานการณ์หงายการ์ดยอมทุกอย่าง แล้วค่อยเปิดตัวลูกชายในอีกวัน หลังจากผ่านการอบรม

จริงอยู่ที่ปัญหาใหญ่อยู่ที่การคุมอารมณ์ของ “ลูกพีช”  แต่ทั้งหมดก็ยังอยู่ในแกนของคดี ที่ยืนหยัดสองอย่าง หนึ่งคือ ต้นเรื่องที่ชี้ว่าเป็นการประมาทร่วม และ สองคือยอมรับผิดชอบทุกอย่าง

ส่วนฝั่งที่ช่วยเหลือ “ลุง” กับ “ป้า”  ก็คือ “กัน จอมพลัง” พระเอกของโลกโซเชียลที่กระโดดเข้ามาเล่นเรื่องนี้แบบเต็มตัวและกัดไม่ปล่อย

เสียงสังคมยิ่งเฮ “กัน จอมพลัง” ยิ่งจัดหนัก  รุกไล่พื้นที่เข้าไปเรื่อยๆ และนี่เองทีอาจจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนของคดีนี้

แรกเริ่มคนที่ถูกกระทำคือ “ลุง” กับ “ป้า” แต่หลังๆ ภาพของคนที่ถูกกระทำกลับกลายเป็น “นายกเบี้ยว” และ “ลูกพีช”

เพราะไม่ว่าจะโดนอะไรเท่าไหร่ สองพ่อลูกเดินหน้าเข้าหา ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล ก้มลงขอขมา รวมถึงยอมจ่ายค่ารักษา

เจตนาเป็นอย่างไรเราไม่อาจทราบถึงหัวใจและความคิดของสองพ่อลูกได้ แต่หากนับเรื่องทางคดีแล้วเขาเข้าสู่จุดที่ได้เปรียบไม่น้อย เพราะความสำเร็จของการขอขขมา และการขอจ่ายค่ารักษาไม่ใช่อยู่ที่การรับหรือไม่รับ แต่อยู่ที่การได้เข้าไปทำ

ซึ่งศาลก็เหมือนคนอื่นที่ไม่อาจรับรู้ถึงจิตใจของคนได้ ดังนั้นศาลจึงดูกรรม หรือ “การกระทำ” เป็นหลัก ซึ่งกรณีนี้ศาลอาจมองได้ว่า “ผู้ต้องหาได้พยายามแล้ว” และนั่นก็เพียงพอที่จะเป็นเหตุแห่งการบรรเทาโทษ

จริงอยู่ที่ไม่อาจสามารถปฏิเสธการรับผิดหรือปฏิเสธโทษได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็อาจจะลดโทษได้ไม่น้อยและที่สุดก็อาจจะเป็นเพียงแค่การรอลงอาญาหรือกักขัง ซึ่งเท่านี้ก็เพียงพอแก่ความต้องการ

แล้วเรื่องทางการเมืองล่ะ?
ก็คล้ายกับเรื่องทางคดี ที่เมื่อถูกรุกไล่จนถอยถึงที่สุด เขาก็กลับมาตั้งหลัก ณ ฐานที่มั่น “ธัญบุรี” 

ใครจะทิ้งไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่สิ่งที่จะทำให้อนาคตของพวกเขากลับมาได้คือการแสดงให้เห็นว่าฐานที่มั่นแห่งนี้ “หลีนวรัตน์”  ยังเป็นที่หนึ่ง และเป็นที่หนึ่งแบบขาดลอย


และบทพิสูจน์ก็จะมาถึงในอีกไม่ถึงเดือนสแกนดูชัดๆ นาทีนี้ไม่มีใครที่จะหาญกล้าสู้ได้ เอาง่ายๆก่อนหน้านี้พรรคใหญ่ กลุ่มหลักถอนตัว เพราะขนาดวันที่พรรคส้มกระแสแรงจัดอย่างการเลือกตั้ง “สส.ฟลุก” ยังคว้าชัยมาได้เลย

ขณะที่ “บิ๊กแจ๊ส” เองก็ถอนตัวโดยให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์แบบชัดๆว่า  ตอนแรกก็คิดจะส่งผู้สมัครชิงตำแหน่ง แต่ประเมินแล้ว ส่งลงไปก็แพ้ เพราะสู้ระบบอุปถัมภ์เดิมไม่ได้ จึงไม่ส่งผู้สมัครในปีนี้

และแม้จะมีคนลงสมัครนายกเทศมนตรีแข่งอีก 3 คน แต่ใครๆ ก็รู้ว่าบารมียังทาบกันไม่ติด ว่ากันว่าคนที่ดูจะใกล้เคียงสุดก็คือ “เจ๊เล็ก ออโต้คาร์” หรือ “สิริกัญญา เสาะแสวง” ที่เคยเป็น สท. ในอดีต แต่การลงคราวนี้ก็ส่งผู้สมัคร สท. แค่ 2 คน

เรียกว่าดูยังไงก็ยังห่างไกล  ขณะที่ชาวบ้านไม่น้อยก็ยังเต็มใจที่จะเลือก “บ้านหลีนวรัตน์”  อันเนื่องมาจกาการทำพื้นที่มานาน และความมีบารมี ใจถึง พึ่งได้ ซึ่งก็คือพื้นฐานของบ้านใหญ่ทั่วไป

นี่ไม่ใช่โมเดลใหม่ ของการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ระบบอุปถัมภ์ การช่วยเหลือ การดูแลพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญมากกว่ากระแส ทั้งกระแสการเมืองระดับชาติ และกระแสโซเชียล

ยิ่งการเลือกตั้งในหน่วยที่เล็กลงเท่าไหร่ จุดสำคัญที่ชาวบ้านจะใช้ในการตัดสินใจคือ ใครที่จะช่วยเหลือเขาได้ น้ำไม่ไหล ไฟไม่สว่าง ทางชำรุด เขาต้องรู้ว่าเขาจะโทรหาใคร  และเครือข่ายบ้านใหญ่เหล่านี้ได้วางเอาไว้หมดแล้ว

ไม่ใช่ว่าชาวบ้านไม่อยากเปลี่ยน แต่เครื่องหมายคำถามตัวใหญ่คือ “ถ้าเปลี่ยนแล้วเกิดเรื่องใครจะช่วยเรา” ทั้งหมดคือปัจจัยในการเลือกตั้งท้องถิ่น

หากมีคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อ การเปลี่ยนใจตามกระแสอาจเกิดได้ เพราะหาก A ไม่ได้ B เป็นก็ยังติดต่อไหว  แต่ถ้าคู่แข่งห่างชั้นเกินไปยังไงความเปลี่ยนแปลงก็ยากที่จะเกิด  เพราะใครจะกล้าไปเสี่ยง

นาทีนี้คนเชี่ยวชาญและช่ำชองการเมืองอย่าง “กฤษฎา” ก็น่าจะอ่านออก ขณะที่ “รองฯน้ำอ้อย” ภรรยาก็ไม่ธรรมดาดีไม่ดีกระแสไม่แพ้ผู้เป็นสามี”  

ที่เหลือก็แค่แสดงความรับผิดชอบ อดทนให้กระแสผ่านพ้นไปให้ได้ และรอวันที่จะกลับมายิ่งใหญ๋ และยิงในวันที่การเมืองคู่คี่ ขับเคี่ยวสูสี บ้านใหญ่อย่าง “หลีนวรัตน์” นี่แหละจะเนื้อหอมขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า