สุทิน เผย เหตุไม่ยกเลิกซื้อเรือดำน้ำเพราะเป็นข้อตกลง ไม่ใช่สัญญา

สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เผยเหตุที่ไม่ยกเลิกซื้อเรือดำน้ำ แต่เปลี่ยนเป็นซื้อเรือฟริเกตแทน เพราะการซื้อดังกล่าวไม่ใช่สัญญาแต่เป็นข้อตกลงจีทูจี ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ ยันไม่ล้มแผนซื้อเรือดำน้ำแต่เปิดกว้างมากขึ้น

มหากาพย์การจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือไทยนั้นดูจะยังไม่จบง่ายๆ หลังล่าสุดมีการปรับเปลี่ยนใหม่อีกครั้ง โดยจะเป็นการซื้อเรือฟริเกตแทน แต่ทางการไทยต้องควักเงินจ่ายเพิ่มเนื่องจากเรือดังกล่าวมีมูลค่าสูงกว่าเรือดำน้ำนั้น  

วันที่ 24 ต.ค. 66 นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เปิดเผยผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ถึงประเด็นการเปลี่ยนเป็นซื้อเรือฟริเกตแทนเรือดำน้ำ ว่า การขอเปลี่ยนจากเรือดำน้ำเป็นเรือฟริกเกตนั้นเป็นข้อเสนอของทางฝั่งไทยเองเดิมทีมีเรือ OPV หรือเรือตรวจการณ์เป็นอีกหนึ่งทางเลือก หลังการจัดหาเรือดำน้ำนั้นดูจะเป็นไปไม่ได้ ซึ่งการมีเรือดำน้ำนั้นถือเป็นการรักษาเสถียรภาพระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เราต้องหาสิ่งของหรือเรือที่มีศักยภาพทัดเทียม กับเรือดำน้ำ ก็เลยได้ข้อสรุปเป็นเรือฟริเกตที่สามารถต่อสู้ได้ทั้งบนบก อากาศ ผิวน้ำ และใต้น้ำ พูดง่ายๆว่าซื้อเพื่อมาปราบเรือดำน้ำ สำหรับเรือฟริเกตมีราคาราว 1.4 หมื่นล้าน แต่เรือดำน้ำมีราคาราว 1.3 หมื่นล้าน ซึ่งเราอาจต้องจ่ายเงินเพิ่ม   

ส่วนกรณีที่ทำไมเราถึงไม่ขอยกเลิกสัญญา เรียกค่าเสียหาย หรือขอเงินคืน ทั้งที่จีนซึ่งเป็นผู้ขายเป็นฝ่ายผิดสัญญา นายสุทิน ชี้แจ้งว่า สัญญาการชื้อขายนี้เป็นแบบจีทูจี ไม่เชิงว่าเป็นสัญญาแต่เป็นข้อตกลงเพราะเป็นการซื้อขายระหว่างรัฐกับรัฐ หากเป็นสัญญาก็คงจะสามารถยกเลิกสัญญาหรือเรียกค่าเสียหายอะไรได้ เพราะท้ายสัญญาจะระบุไว้ชัดเจน แต่พอเป็นข้อตกลงก็สามารถที่จะเจรจาปรับเปลี่ยนหรือพูดคุย ลดหย่อยผ่อนปรนกันได้ ส่วนทำไมเป็นข้อตกลงนั้นอันนี้ก็ต้องบอกว่ารัฐบาลเก่าเค้าทำไว้เราไม่รู้ แต่เท่าที่ทราบคือคำว่าข้อตกลงจะมีมิติทางมิตรประเทศ มีความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์รวมเข้าไปด้วย 

ด้านความเสี่ยงทั้งทางกฎหมายและทางการเมืองมีหรือไม่นั้นมันก็ถือว่ามีความเสี่ยง แต่ถ้าเราเดินหน้าแผนเรือดำน้ำต่อมันจะเสี่ยงกว่า จริงๆเราสามารถเลือกสิ่งของที่มีราคาถูกกว่าอย่างเรือ OPV ที่มีราคาลำละ 5 พันล้านได้ ซึ่งอาจได้เงินคืนด้วย แต่ก็มีในเรื่องขีดความสามารถและศักยภาพของเรือที่กองทัพเรือต้องการ หากจะให้เทียบเท่ากับเรือดำน้ำ มันก็เลยต้องเป็นเรือฟริเกต หรือพูดง่ายๆ อยากได้ของดีก็ต้องจ่ายแพงหน่อย 

ส่วนทางออกอื่นๆ อย่างเช่น ยกเลิกไปเลย หรือจะชะลอแผนซื้อเรือดำน้ำออกไปก่อน โดยให้เวลาทางจีนไปหาเครื่องยนต์มาให้ได้นั้น รมว.กลาโหม กล่าวว่า จากที่คุยกับทางจีนล่าสุดนั้น ดูจะหมดโอกาสที่จะได้เครื่องยนต์ของเยอรมันแบบค่อนข้างแน่ อยู่ที่ว่าเราจะออกทางไหนเท่านั้น เช่น เรือฟริเกตตามข้อเสนอของไทย หรือทางจีนจะไปจัดหาเครื่องยนต์ของประเทศตัวเอง หรือเครื่องยนต์เยอรมันมือสองมาให้ 

อย่างไรก็ตาม ช่วงท้าย นายสุทิน ได้เผยถึงแผนการจัดหาเรือดำน้ำของกองทัพเรือไทยนั้น ยังคงดำเนินอยู่ และไม่ยกเลิก แต่ก็จะเปิดกว้างมากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้งเรือดำน้ำของจีนเหมือนเดิม หรือประเทศอื่นๆก็ได้เช่นกัน