ศรีสุวรรณ ขึ้นศาล เป็นพยานให้ ป.ป.ช. ฟ้อง ช่อพรรณิการ์

ศรีสุวรรณ ขึ้นศาลฎีกา เป็นพยานให้ ป.ป.ช. ฟ้อง ช่อพรรณิการ์ คดีโพสต์ดูหมิ่นสถาบัน ตอนยังเป็น ส.ส. พรรคอนาคตใหม่

“ศรีสุวรรณ” ขึ้นศาลเป็นพยานให้ ป.ช.ช ฟ้อง “ช่อ พรรณิการ์”

วันนี้ (29 พ.ค.66) เวลา 10.09 น. ที่ศาลฎีกา นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมาเป็นพยานตามหมายเรียกของศาลฎีกา ในคดีระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฟ้อง น.ส.พรรณิการ์ วานิช โพสต์ภาพและข้อความ เข้าข่ายดูหมิ่นสถาบัน 

นายศรีสุวรรณ เปิดเผยว่า คดีนี้ตนได้ยื่นร้องเรียนให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ และส่งให้ศาลฎีกาวินิจฉัย ถึงการกระทำของ น.ส.พรรณิการ์ ว่าเข้าข่ายการฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ หลังจากที่พบว่า น.ส.พรรณิการ์ ซึ่งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ในขณะนั้น ได้โพสต์ภาพและข้อความจำนวนมากในเฟซบุ๊กของตัวเอง ด้วยการนำภาพที่ถ่ายเล่นๆ กับเพื่อนในช่วงรับปริญญาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี 2553  อาจทำให้ประชาชนเข้าใจไปในทางที่เชื่อมโยงกับเรื่องของสถาบันมิบังควร อันเป็นพฤติการณ์ หรือการกระทำที่ส่อไปในทางขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดตาม ม.219 ของรัฐธรรมนูญ 2560 หรือไม่

ในขณะที่ร้องเรียน น.ส.พรรณิการ์ ยังมีสถานะเป็น ส.ส.อยู่ ดังนั้นตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 5 และข้อ 6 ในหมวด 1 ว่าด้วยมาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ บัญญัติข้อห้ามไว้ชัดเจนว่า ส.ส. ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบัน และต้องยึดมั่นและธํารงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่กระทําการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการเป็น ส.ส. มิได้

แม้ภาพและข้อความที่โพสต์ในเฟซบุ๊ก จะเป็นการโพสต์มานานแล้ว และเมื่อ น.ส.พรรณิการ์ ได้รับการโปรดเกล้าให้เป็น ส.ส. แต่ข้อความเหล่านั้นไม่ได้ลบทิ้ง ดังนั้นความผิดจึงยังต่อเนื่อง มาจนถึงวันที่ น.ส.พรรณิการ์ เป็น ส.ส. อยู่ ซึ่งอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงได้ ถึงแม้ว่าหลัง วันที่ 10 มิ.ย. 62 เฟซบุ๊ก น.ส.พรรณิการ์ จะเปลี่ยนสถานะเป็นส่วนตัวแล้วก็ตาม

ทางสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำพยานหลักฐานมาร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ใช้อำนาจตาม ม.87 ประกอบ ม.81 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 เพื่อเสนอเรื่องต่อศาลฎีกาวินิจฉัย 


ต่อมาทราบมาว่า ป.ป.ช. ได้ยื่นฟ้อง น.ส.พรรณิการ์ ต่อศาลฎีกา และระบุให้สมาคมฯเป็นพยานในคดีดังกล่าวด้วย โดยศาลได้มีหมายเรียกให้ไปเป็นพยานในวันนี้ ที่ศาลฎีกา สนามหลวง ซึ่งตนก็ได้เบิกความไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ที่เคยให้ไว้ต่อ ป.ป.ช.ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่ง ป.ป.ช.ได้นำมาใช้เป็นพยานประกอบการเบิกความต่อศาลฎีกาฯในฐานะพยานบุคคลในวันนี้ พร้อมกับพยานคนอื่นๆอีกหลายคน