กกต.แจง ส.ส.ก้าวไกล 10 คนโดนใบแดงเป็นข่าวเท็จ อย่าหลงเชื่อ

กกต. แจง ส.ส.ก้าวไกล10 คนโดนใบแดง เป็นข่าวเท็จ! เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ กดไลก์ หรือกดแชร์

ช่วงนี้กระแสการเมืองร้อนแรง และมีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จโจมตีกัน ล่าสุดสังคมโซเชียลมีเดีย เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ ระบุ ส.ส.ก้าวไกล จะโดนใบแดงอีกเกือบ 10 คน เพราะว่า ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ก่อนหน้านี้ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้ไปเลือกตั้งท้องถิ่นนั่นแหละ เช่น อบต. เทศบาล อบจ. สก. สข. และ ผู้ว่า กทม. แล้วไม่ได้ทำหนังสือแจ้งว่าทำไมไม่ไป อันนี้ก็เป็นคุณลักษณะต้องห้ามตาม รธน. อีก โดยประชาชนได้นำข้อความดังกล่าว ไปโพสต์เผยแพร่ผ่านสื่อตามช่องทางต่างๆ นั้น

วันนี้ (7 มิ.ย.66) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจง ว่า ข้อความดังกล่าวเป็นข้อความเท็จ กล่าวคือ กกต. หรือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในสำนักงาน กกต. หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกคน ไม่เคยให้ข้อมูล หรือเผยแพร่ข่าวสาร หรือแจ้งข่าว ไปยังสื่อมวลชนหรือช่องทางการสื่อสารใดๆ ว่า ส.ส. พรรคก้าวไกล จะถูกจำกัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือจะเป็นผู้ได้รับใบแดง จำนวน 10 คน ตามที่สื่อต่างๆ ได้นำข้อความไปโพสต์แต่อย่างใด ทั้งสิ้น จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ

และข่าวโพสต์ข้อความเท็จเกี่ยวกับการกล่าวหาว่า กกต. ละเว้นการดำเนินคดีอาญากับบุคคลอันเนื่องมาจากการยุบพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกโพสต์โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ในทำนองว่า “กกต. ชุดนี้ห่วยแตกครับ เวลาผ่านมาเกิน 3 ปีแล้ว แต่คดีอาญาอันเนื่องมากจาก การยุบพรรคอนาคตคตใหม่กลับเงียบสนิท กกต.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามคำวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะความผิดที่นำไปสู่การยุบพรรคอนาคตใหม่ พ่วงมาด้วยความผิดอาญาตาม ม.124, ม. 125 และ ม.126 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง”

ซึ่งกกต. ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อความดังกล่าวเป็นข้อความเท็จ กกต.ได้ดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 16 คน ซึ่งได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น กกต.ไม่ได้ละเลยและได้ดำเนินคดีอาญากับบุคคลทุกคนที่กระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ไม่ว่าจะพรรคไหนก็ตามไม่มีการละเว้นแต่อย่างใด

ทั้งนี้ กกต. ได้ย้ำโทษหากผู้ใดเผยแพร่ข่าวดังกล่าวไม่ว่าจะกดไลค์ กดแชร์ รีทวิต รีโพสต์ ทางยูทูบ ทางติ๊กต๊อก ส่งต่อทางไลน์ไปยังกลุ่มต่างๆ หรือช่องทางสื่อสารอื่นๆ จะได้รับโทษความผิดตาม พรบ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ช่วงนี้เห็นข้อความที่เกี่ยวข้องกับการเมืองก็ตรวจสอบให้มั่นใจก่อนแชร์ หรือไลก์นะคะ