“เศรษฐา” ย้ำ นโยบาย 1 หมื่น คงระยะทาง 4 กม. ใช้นาน 6 เดือน

“เศรษฐา” ย้ำ นโยบาย 1 หมื่น คงระยะทาง 4 กม.ใช้นาน 6 เดือน ชี้ จำเป็นต้องการให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น คนที่มีถิ่นฐานอยู่ที่จังหวัดใด ก็ควรกลับไปใช้ที่นั้นกลับไปเยี่ยมญาติพี่น้อง

วันนี้ (11 ก.ย.66) เวลา 17.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวชี้แจงหลังจากการประชุมร่วมระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา เพื่อพิจารณาเรื่องเร่งด่วน “คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย” ซึ่งเป็นการแถลงนโยบายรัฐบาลเศรษฐา 1 ก่อนที่รัฐบาลจะดำเนินการตามอำนาจ เปิดให้อภิปรายเกี่ยวกับว่า นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต หรือแจกเงิน 1 หมื่นบาท ว่า นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ให้ใช้งานในระยะทาง 4 กิโลเมตร เรื่องนี้ตระหนักว่าในชนบทอาจมีร้านค้าไม่เพียงพอ ขอไปดูรายละเอียดและไปดำเนินงานให้เหมาะสมอีกครั้งตามคำแนะนำของสมาชิก ส่วนระยะเวลาการใช้ 6 เดือน เรื่องนี้จำเป็นเพราะต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่

“มีบางคนบอกว่าอยากให้ยกเลิกการใช้ระยะทาง 4 กิโลเมตร ผมเรียนอย่างนี้ครับ เศรษฐกิจในภูมิภาคต้องการการกระตุ้น ถ้าเกิดคนที่มีถิ่นฐานอยู่ที่จังหวัดใด ก็ควรกลับไปใช้ที่นั่นมีเวลา 6 เดือนครับก็กลับไปเยี่ยมญาติพี่น้องก็ดี เพราะฉะนั้นเรื่อง 4 กิโลเมตรตามบัตรประชาชนก็ขอคงไว้ ยกเว้นแต่ว่าบางจังหวัดหรือบางเขตอาจมีการขยาย อาจขอดูอีกทีหนึ่ง” นายเศรษฐา กล่าว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้พูดเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ว่า สมควรได้รับการปรับเร็วที่สุด โดยตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้เศรษฐกิจโตเฉลี่ยปีละ 5% ตลอด 4 ปี ซึ่งจะทำให้ค่าแรงขึ้นไปได้ 600 บาทต่อวัน ปริญญาตรีเงินเดือน 25,000 บาท

ส่วนค่าพลังงานเป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนให้ความสำคัญ ซึ่งเรามั่นใจว่าจะทำให้ค่าพลังงานต่ำลงอย่ามีนัยยะได้ ขณะที่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังคงมีอยู่เพราะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน และประเด็นการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อีก 5 เดือนภาคเหนือจะเข้าสู่วิกฤตอีกแล้ว จะเริ่มทำโดยเร็วเพื่อให้เกิดผลภายในต้นปี

นอกจากนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับความโปร่งใสจะนำระบบดิจิทัลมาใช้ให้มากขึ้นเพื่อลดการทุจริต