กทม.ยืนยัน! ถึงแม้ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา จะมีผู้คนออกมาชุมนุมที่อโศกมาก จนต้องปิดถนน แต่เชื่อว่าสถานที่ที่จัดเตรียมไว้เพียงพอ ไม่มีแนวโน้มเปิดเพิ่ม
วันที่(24 ก.ค. 66) ณ บริเวณหน้าห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้เปิดเผยถึงการชุมนุมทางการเมืองในพื้นที่กทม. ของเมื่อวานนี้(23 ก.ค. 66) ว่ามีการชุมนุมที่อโศก ซึ่งอยู่นอกพื้นที่ ที่เราประกาศให้เป็นพื้นที่ชุมนุมสาธารณะ แต่แกนนำการชุมนุมได้มาขออนุญาตใช้พื้นที่ในการจัดการชุมนุมกับทาง สน.ทองหล่อแล้ว
โดยรายละเอียดในการขออนุญาตชุมนุมทางด้านที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี เป็นผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าในการขออนุญาตชุมนุม มีระเบียบว่าต้องไปอนุญาตกับทางสถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่ เพื่อแจ้งรายละเอียดกิจกรรมที่จะทำ วัตถุประสงค์ เวลาเปิด-ปิดกิจกรรม
ทั้งนี้จะต้องมีการเจรจาหารือกับตำรวจพื้นที่ในเรื่องของสิ่งต้องห้ามในการชุมนุม โดยสิ่งที่เราระมัดระวังคือเรื่องของอาวุธซึ่งเป็นสิ่งของที่ไม่สามารถนำเข้าไปในที่ชุมนุมได้ รวมไปถึงการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอยที่ติดตามมาเพื่อขายของแก่ผู้ชุมนุมด้วย
ในขณะเดียวกันทางผู้ชุมนุมเอง ก็ต้องรับกติกาตามที่ได้พูดคุยกับทางตำรวจท้องที่ไว้ ซึ่งเบื้องต้นนั้นตำรวจได้ปิดถนนอโศกฝั่งขาออกประมาณเลนครึ่ง แต่สุดท้ายประชาชนมาเยอะ ประมาณพันกว่าคน จึงต้องปิดถนนอโศกทั้งหมดในภายหลัง แม้จะมีฝนตกก็ยังมีประชาชนเข้ามาใช้พื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งบนถนนและพื้นที่สกายวอล์ก
ด้านแนวโน้มในการประกาศพื้นที่ชุมนุมเพิ่มเติม ที่ปรึกษาฯ อดิศร์ กล่าวว่า จะไม่มีการประกาศพื้นที่เพิ่มเติม เนื่องจากพื้นที่ที่ได้ประกาศไป ณ บริเวณศูนย์ราชการกรุงเทพมหานครเกียกกาย เขตดุสิต ยังสามารถใช้ได้
“นอกจากนี้ พื้นที่อื่นที่ได้มีการประกาศเป็นสถานที่เพื่อใช้สำหรับการชุมนุมสาธารณะ อาทิ ลานคนเมือง ก็ยังว่างอยู่ หากประสงค์จะมาใช้ก็สามารถขอเข้ามาได้ ส่วนพื้นที่นอกเหนือจากประกาศทางตำรวจเป็นผู้พิจารณา โดยกทม.จะดูแลในเรื่องของห้องน้ำสาธารณะและดูแลคนป่วยไข้ เพราะถือว่าเราต้องดูแลประชาชนทุกคนเท่าเทียมกัน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับกรณีที่ต่อไปนี้ผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวน ไม่อยู่กับที่ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า
“เรื่องนั้นเราก็ต้องเตรียมตัวรับมือ เป็นเรื่องที่เรากำหนดไม่ได้ หลักการคือเราต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ติดตามข่าวใกล้ชิด และประสานความร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคง (ตำรวจ) เชื่อว่าทุกคนคงไม่ได้อยากให้เกิดความลำบากกับคนเดินทางสัญจรคนอื่น และทุกคนคงเข้าใจ เป็นเรื่องที่ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน”