หมอมิ้ง เผย ดิจิทัลวอลเล็ต กู้ 5 แสนล้าน ไม่ผิด ก.ม. เคลียร์จบปี 70

นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุรเดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เผย พ.ร.บ. กู้เงิน 5 แสนล้าน แจกดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ผิดกฎหมาย เคลียร์หนี้จบภายในปี 70

หลังจากดที่นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ได้ออกแถลงการณถึงนโยบายเงินดิจิทัล ที่เตรียมออกพระราชบัญญัติเงินกู้ 5 แสนล้าน เพื่อมาใช้จ่ายในโครงการดังกล่าว จนเกินกระแสวิพากย์วิจารณ์อย่างหนักว่าจะเป็นการผิดกฎหมายหรือไม่ สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้รัฐบาลเจอทางตันหรือไม่นั้น 

ล่าสุด นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุรเดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เผยผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ถึงประเด็นดังกล่าวว่า “การกู้เงิน 5 แสนล้านเพื่อมาใช้แจกเงินดิจิทัลนั้น ต้องขอแจงว่าไม่ใช่มาแจก แต่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะหางบประมาณมาชดเชยภายใน 3 ปี  ซึ่งโครงการนี้จะจบในปี 70 จบภายในรัฐบาลของเรา 

ด้านผู้ว่าแบงค์ชาติก็บอกว่า พ.ร.บ. เงินตรา นั้นสำคัญ วันที่จะออกโครงการนี้ต้องมั่นใจว่ามีเงินเพียงพอ ทำให้การบริหารเงินแบบนี้ เราจึงจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนหนึ่งซึ่งต้องกู้มา และเรามีแผนจะใช้คืนใน 3 ปี ซึ่งตรงนี้ก็จะตอบโจทย์ที่ว่าเราใช้งบประมาณ แต่ว่าจำเป็นต้องบริหารเงินเพื่อให้ถูกต้อง ตาม พ.ร.บ. เงินตรา ซึ่งเม็ดเงินในรอบแรกมันยังไม่ได้ออกมาเป็นเงิน มันจะเข้าไปอยู่ในระบบและจะออกมาเป็นเงินในภายหลัง  

ซึ่งท่านผู้ว่าแบงค์ชาติก็ย้ำว่าต้องมีเม็ดเงินเพียงพอ ส่วนที่ว่าท่านผู้ว่าแบงค์ชาติเห็นด้วยกับการกู้เงินหรือไม่นั้น ต้องเรียนว่านี่คือสิ่งที่ท่านดูแลก็คือเรื่อง พ.ร.บ. เงินตรา และเน้นย้ำเรื่องของจำนวนเงินต้องพอในวันที่ออกนโยบาย จะเบิกเงินจนหมดยังไงก็ต้องมีเงินให้พอ เราจึงแก้ปัญหาด้วยการกู้เงินมากองมาวางให้เห็นเลย  

ส่วนที่มีข่าวออกมาว่าในที่ประชุมมีการติติงในประเด็นหลักการวิธีการกู้เงินเพื่อมากระตุ้นด้วยวิธีการแจกเงิน รวมถึงเลขากฤษฎีกาบอกว่าวิธีดังกล่าวมีความสุ่มเสี่ยงนั้น ต้องชี้แจงว่าในที่ประชุมมีแค่ผู้ว่าแบงค์ชาติที่ให้ความเห็นเพียงคนเดียวว่าต้องมีความระมัดระวังในการกู้เงิน จึงเป็นที่มาของการเตรียมออก พ.ร.บ. เงินกู้ 5 แสนล้าน ส่วนเลขากฤษฎีกาพูดเพียงแต่ว่า ต้องดูแลให้ทุกคนทำตามกฎหมาย และต้องนำเรื่องนี้เข้าสู้ที่ประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อน ซึ่งผมเชื่อว่ากฤษฎีกาจะมีการให้ความเห็นว่าควรทำอย่างไร รวมถึงถ้ามีข้อน่าห่วงใยตรงไหนก็ต้องแก้ตรงนั้น  

นอกจากนี้ ยังมีอีกประเด็นสำคัญที่หลายคนพูดถึงคือเรื่อง ประเด็นตอนหาเสียงกับตอนทำจริงไม่เหมือนกันในทางการเมืองจะเสียหายมั๊ย หมอมิ้ง กล่าวว่า “ไม่เหมือนตรงไหน เรารับว่าเราจะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการใช้ดิจิทัลวอลเล็ตซึ่งเราก็ทำตามข้อใหญ่ ส่วนข้อหลังเราก็บอกว่าเราจะบริหารที่มาของงบประมาณ ส่วนประโยคท้ายที่บอกว่าทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเงินของประเทศ  ก็หมายความว่าสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ เช่น มีเงินอยู่ประมาณไหน หรือทำอย่างไรได้บ้าง” 

อย่างไรก็ตาม โครงการดิจิทัลวอลเล็ต คาดว่าจะใช้งบประมาณราว 600,000 ล้านบาท โดยจะมอบสิทธิการใช้จ่าย 10,000 บาท ให้กับคนไทย ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ที่มีรายได้ไม่ถึง 70,000 บาทต่อเดือน และมีเงินฝากต่ำกว่า 500,000 บาท 

คลิปอีจันแนะนำ
ข่าวลือหนาหู เพื่อไทย จะยกเลิกแจกเงินดิจิทัล จริงเหรอ?