นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่พรรคเพื่อไทย วันนี้ (30 ส.ค.66) ถึงกรณีกระแสข่าว นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ว่า ต้องให้เกียรติ นพ.ชลน่าน ประกาศเรื่องนี้เอง ซึ่งนพ.ชลน่าน เป็น สส.หลายสมัย ทำประโยชน์กับพรรคเพื่อไทยมานาน ซึ่งไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ก็คงจะยังช่วยเหลือพรรคและดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป
“นพ.ชลน่านประกาศไว้นานแล้วว่า หากมีการจัดตั้งนายกรัฐมนตรีเรียบร้อย เสร็จภารกิจ ท่านก็จะประกาศลาออก” นายกรัฐมนตรีกล่าว พร้อมระบุว่า สำหรับผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยต่อนั้น ก็คงจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถรอบรู้ ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจและสังคม
สำหรับความคืบหน้าในการจัดเตรียมนโยบายรัฐบาลนั้น นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก ได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล และวันนี้ (30 ส.ค.66) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมคณะจะเข้ามาพูดคุย เพราะเราอยากให้มีการแถลงนโยบายรัฐบาลโดยเร็ว เพื่อให้ประเทศชาติสามารถเดินหน้าไปได้
ส่วนกระแสการวิพากษ์วิจารณ์การมีชื่อ นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพลเรือนมารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายเศรษฐา กล่าวว่า
นายสุทิน เป็นนักการเมืองอาวุโส เป็น สส.มาหลายสมัยและให้เกียรติผู้อื่นเสมอ เชื่อว่า จะสามารถประสานงานกับกองทัพได้ดี ซึ่งในฐานะนายกรัฐมนตรีก็จะเข้าไปช่วยดูแลในส่วนนี้ด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าทุกหน่วยงานได้รับการดูแล เอาใจใส่แล้วจะพูดคุยอย่างเหมาะสมแล้วก็สมฐานะ
ทั้งนี้ การยื่นเรื่องตรวจสอบคุณสมบัติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย และร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ที่จะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรี นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้รับข้อมูลในส่วนนี้ แต่เชื่อว่าทั้ง 4 ท่านเป็นบุคคลที่เหมาะสม ในการเข้าดำรงตำแหน่ง ก็เหลือเพียงการตรวจสอบคุณสมบัติจากเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งแจ้งว่าอาจใช้เวลาประมาณ 2 วัน
ส่วนกระแสการวิพากษ์วิจารณ์รายชื่อผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่า เราต้องให้เกียรติทุกฝ่าย ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและผู้ประสานงานในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) การวิพากษ์วิจารณ์สามารถทำได้ แต่มั่นใจว่า รัฐบาลมีภารกิจที่จะต้องทำอีกมากและมีเป้าหมายในการทำงานอย่างชัดเจน โดยเราจะวัดกันที่ตรงนี้และทุกคนต้องเริ่มทำงานทันที
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภารกิจสำคัญในช่วงต้นดูเหมือนจะเน้นไปที่เป้าหมายด้านการท่องเที่ยว นายเศรษฐา กล่าวว่า ในเรื่องการท่องเที่ยวได้เน้นย้ำโดยตลอดว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่ดีที่สุด และเรากำลังจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซันในเดือน ต.ค.66 แล้ว ซึ่งในการลงพื้นที่จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต ก็ได้คุยกับหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องแผนพัฒนาและการสนับสนุน ทั้งการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย การบินไทย กระทรวงคมนาคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเรื่องการดูแลความปลอดภัย
อีกทั้งยังได้พบปะพูดคุยกัยกับทางสถานทูตจีนก็สนับสนุนและเห็นชอบเรื่องของนักท่องเที่ยวจีนที่เราจะยกเลิกการขอวีซ่า ก็หวังว่าได้รับการตอบสนองที่ดีจากทุกภาคส่วน จากนั้นก็จะมีการอธิบายให้เห็นได้ว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างไรและเห็นผลเมื่อไหร่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
“จตุพร”ฟาด“สุทิน” นั่งกลาโหมเหมือนเป็น รมว.สากกะเบือ ส่อพลิกอีกรอบ! เปิดประวัติ สุทิน คลังแสง จากอดีตครู สู่ว่าที่ รมว.กลาโหม