ครม.เศรษฐา นิ่งแล้ว แต่ยังกั๊ก นั่งควบ รมว.คลังหรือไม่ ขออดใจรอนิดนึง

อย่างไว! ครม.เศรษฐา ลงตัวแล้ว นายกฯนิด ยังกั๊ก! นั่งควบรัฐมนตรีคลังหรือไม่ ขออดใจรอนิดนึง เพราะต้องให้เกียรติพรรคร่วมเฟ้นหาตัวบุคคล

วันนี้ (25 ส.ค.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะดูแลในเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้พรรคมีความชัดเจนลงตัวในทุกตำแหน่งแล้ว แต่ในส่วนของภาพรวมคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ขอให้อดใจรอในอีก 3-4 วัน คาดว่าน่าจะชัดเจน และต้องให้เกียรติพรรคร่วมในการพิจารณาตัวบุคคล

ส่วนจะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือไม่นั้น ขอให้อดใจรอนิดนึง และยังคงคาดหมายว่า ในวันจันทร์ที่ 28 ส.ค.66 นี้จะสามารถเริ่มตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีได้ รวมทั้งหวังว่าจะสามารถประชุม ครม.นัดแรก และแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้เร็วกว่าไทม์ไลน์ที่คาดการณ์เอาไว้ เพราะอยากให้มีการนับหนึ่งได้แล้ว

เมื่อถามต่อว่าการ ประชุม ครม. นัดแรกจะมีวาระเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องขอรวบรวมทั้งหมดก่อน และจะแถลงให้ทราบ เพราะเป็นหลายๆ เรื่องที่เร่งด่วน รวมถึงการรับฟังกรณีภาคประชาชนอย่าง iLaw ที่มีการวบรวมรายชื่อ

สำหรับการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรี เลื่อนเคาะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อรอนายกรัฐมนตรีเป็นคนดำเนินการนั้น นายเศรษฐา กล่าว่า เรื่องนี้ต้องคอยก่อน ให้ผ่านการถวายสัตย์ฯ ก่อน รวมถึงต้องมีการแถลงนโยบาย จากนั้นแล้วแต่ ก.ตร. จะมีการนัดประชุมเมื่อไร และขอบคุณที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้เกียรติ

นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงกรณีการเดินทางมารับฟังข้อมูลสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินภูเก็ตว่า มารับฟังข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการท่องเที่ยว เพราะจุดแรกที่นักท่องเที่ยวมาถึงคือสนามบิน จึงอยากมาฟังความคิดเห็นในส่วนข้อมูลพื้นฐาน ปัญหาที่เกิดขึ้น และรับฟังว่าอนาคตอยากจะทำอะไร ทีมงานของพรรคจะได้มีการไปร่างนโยบาย ที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่าอากาศยาน

โดยเชื่อว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีที่สุดในระยะสั้น คือการท่องเที่ยว ที่อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น เรื่องของการเตรียมการ รับฟังข้อมูลทุกภาคส่วนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเรายังไม่ได้เข้ามาบริหารอย่างเต็มที่ จึงต้องมีการรับฟังข้อมูลไปก่อน เพื่อเตรียมวางแผน

ทั้งนี้ ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเป็นแค่ 30% เท่านั้น จึงต้องหาวิธีให้ง่ายต่อการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย และต้องให้เกิดความเชื่อมั่น ทั้งเรื่องความปลอดภัยและการเดินทางเข้าประเทศ ต้องบริหารจัดการที่ดี และจำเป็นต้องพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ยกเลิกวีซ่ากับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ได้เพียงขั้นตอนของการรับฟังความคิดเห็นเท่านั้น การวางนโยบายหลักๆ จะมีการพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง และจากนี้ไป ก็จะไปหารือกับสภาพัฒน์เรื่องของการขยายท่าอากาศยาน ทั้งเชียงใหม่ ภูเก็ตและสุวรรณภูมิ เพื่อให้รองรับปริมาณการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนที่เลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่แรกในการลงพื่นที่ เนื่องจากปฏิเสธไม่ได้ว่าจังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งรายได้ใหม่ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จึงมาดูพื้นที่นี้ก่อน และจะไปดูพื้นที่อื่นๆ ต่อไป

เมื่อถามว่าในการหาเสียงที่จังหวัดพังงา มีการสอบถามถึงเรื่องการสร้างสนามบิน ดังนั้น การลงพื้นที่ครั้งนี้จะเห็นเป็นรูปเป็นร่างหรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า จะต้องปรึกษาสภาพัฒน์ก่อน เรื่องอยู่ในแผนแม่แบบอยู่แล้ว ให้ติดตามกันต่อไป เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากสนามบินภูเก็ต ใกล้จะถึงจุดที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

จับตา! โผ “ครม.เศรษฐา 1” 4 พรรคร่วมนั่งกระทรวงใหญ่ยับ! โผ “ครม.เศรษฐา 1” เพื่อไทยเสียหลายกระทรวงหลัก
คลิปอีจันแนะนำ
นาที เศรษฐา กล่าวคำปฏิญาณ รับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี