“สนธิ” ร้องสรรพากรตรวจสอบ “ชูวิทย์” เลี่ยงภาษี

วันนี้ (21 ส.ค.66) ก่อนที่ช่วงบ่าย นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง จะแฉเพื่อชาติ EP.3 นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กรณีเลี่ยงภาษีที่ดิน

ช่วงเช้า นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ได้เดินทางเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ให้ตรวจสอบการเสียภาษีอากร กรณีการซื้อขายที่ดินบริเวณหลังโรงแรมเดอะเดวิส บางกอก ของนายชูวิทย์

ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ส.ค.66 ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ได้มีการพูดถึงนายชูวิทย์รวมทั้งการเลี่ยงภาษี ซึ่งในเช้าวันนี้ (21 ส.ค.66) นายสนธิได้เดินทางมากรมสรรพากร โดยระบุว่า ที่มายื่นเรื่องเพราะมีคนร้องเรียนมาว่าคุณชูวิทย์ขายที่เลี่ยงภาษีให้กับตระกูลตัวเอง โดยเป็นการขายจากบริษัทของตัวเองไปให้ลูกๆ และลูกๆก็นำไปขายต่อให้อีกบริษัทที่เป็นของตัวเองเช่นกัน โดยคิดราคาที่ดินในการโอนทอดแรกแก่ลูกวาละ 2 แสนบาท และนำไปโอนต่ออีกทอดนึงที่เป็นบริษัทของครอบครัวเหมือนกัน

นายสนธิ ระบุว่า บริษัทที่โอนมาก็เป็นของตัวเองแบ่งที่เป็น 4 แปลงโอนให้ลูก 4 คน หลังจากนั้นก็โอนต่อให้อีกบริษัทที่ลูกๆก็เป็นเจ้าของ คนที่ส่งมาบอกว่าเป็นนิติกรรมอำพราง โอนครั้งแรกเสียภาษีแค่ 11 ล้าบาท แต่ถ้าเป็นนิติกรรมอำพรางคุณชูวิทย์ต้องเสียภาษี 359 ล้านบาทถ้าผิดจริงก็ต้องโดนอีกเท่าตัว และรวมหมดตระกูลคุณชูวิทย์ต้องเสีย 900 กว่าล้านบาทผมขี้เกียจทะเลาะกับคุณชูวิทย์ เขามันใจว่าเขาไม่ผิด เขาทำงานมาเขาเป็นนักบัญชี แต่ความจริงมีหนึ่งเดียว คนที่ชี้ขาดเรื่องนี้ได้น่าจะเป็นสรรพากร ผมจึงนำหลักฐานมาให้ และถ้าเป็นนิติกรรมอำพรางคุณชูวิทย์ก็ต้องเสียภาษี ถ้าไม่ใช่ก็จบไปยุติธรรมมาก ไม่ต้องเถียงกัน นั่นคือสิ่งที่ผมมาวันนี้

ทั้งนี้ ในหนังสือร้องเรียนมีการระบุว่า มีการสมรู้ร่วมคิดกันทำนิติกรรมอำพรางเพื่อหลบเลี่ยงภาษีอากรอันถึงชำระ อันเป็นความผิดตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2481 มาตรา 37 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก คุยทุกเรื่องกับสนธิ