ทิศทางการเมืองไทยตอนนี้ ยังไม่แน่นอน แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลใหม่จะมั่นใจว่า สว.จะเทคะแนนเสียงให้ แต่วันนี้ ทีมข่าวอีจันได้พูดคุยกับ สว.สมชาย แสวงการ ก้ได้ข้อมูลใหม่มาอีกชุดหนึ่ง
ข้อมูลที่ว่านั้น นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ได้พูดถึงท่าทีของ สว. ในการโหวตนายกรัฐมนตรี วันที่ 22 ส.ค. 66 ว่า ส่วนตัวมองว่า ทางพรรคเพื่อไทย ยังไม่มีความชัดเจนทั้งในเรื่องของแคนดิเดตที่จะเสนอให้โหวต และเรื่องของนโยบายที่จะหลอมรวมกัน ของแต่ละพรรคร่วม ซึ่งมีความแตกต่างในเรื่องของนโยบายค่อนข้างมาก ทำให้ยังมีความกังวลในหลายๆส่วนอยู่ พรรคเพื่อไทยต้องตอบให้ได้ว่า จะรวบนโยบายทั้งหมดออกมาให้เป็นรูปธรรมได้ยังไง
โดยเฉพาะการที่พรรคเพื่อไทยเคยบอกว่า จะผลักดันให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญทันที เพราะ สสร . ก็จะมาจากฐานคะแนนเสียงของพรรคการเมืองกลุ่มเดิม เหมือนเช่นตอนที่มีการเลือกตั้ง ทำให้เกิดคำถามว่า รธน.จะถูกแก้และร่างใหม่ไปอย่างไร และกังวลเรื่องของงบประมาณที่จะต้องใช้ไป ในการตั้ง สสร. ตนลองคำนวณคร่าวๆแล้ว จะใช้เงินราวๆ 14,000 ล้านบาท และใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปีขึ้นไป ซึ่งตัวเองมองว่า เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น
ส่วนการโหวตนายกฯนั้น หากผู้ที่ถูกเสนอชื่อขึ้นมา คือนายเศรษฐา ทวีสิน จากพรรคเพื่อไทย ส่วนตัวไม่ได้ติดอะไร แต่ต้องให้ทางพรรคเพื่อไทย แสดงความชัดเจนในเรื่องของนโยบายมากกว่า
กรณีการร่วมรัฐบาลของพรรครวมไทยสร้างชาติ และการประกาศเทคะแนนให้พรรคเพื่อไทย ของพรรคพลังประชารัฐ ตนมองว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะถือว่าเป็นการสลายความขัดแย้งทางการเมือง ปรองดองกันได้ ก็พร้อมสนับสนุน ถึงแม้จะเป็นการปรองดองของพรรคก้าวไกล ก็พร้อมที่จะเห็นด้วย ถ้าสามารถสลายความขัดแย้งได้
ก็ต้องติดตามล่ะครับ ว่าวันที่ 22 ส.ค.นี้ เราจะได้นายกฯคนที่ 30 กันหรือไม่