เป็นเหตุการณ์ที่คนไทยรับไม่ได้ และถูกพูดถึงกันอย่างมากในขณะนี้ สำหรับคลิปที่ เชฟรุ้ง สุชานันท์ อักษรานันท์ เจ้าของร้านอาหาร Baoburg ถูกรุมทำร้ายร่างกายขณะพาครอบครัวออกไปเดินเล่น เหตุเกิดขึ้นที่ สวนสาธารณะแม็กคาร์เรน ย่านบรูกลิน กรุงนิวยอร์ก นอกจาก เชฟรุ้ง จะถูกทำร้ายร่างกายแล้ว พอนซึ แมวของเชฟรุ้ง ก็ถูกทำร้ายจนตายด้วย
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ก่อน เชฟรุ้ง พาครอบครัวไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะแม็กคาร์เรน ที่อยู่แถวบ้านประมาณ 5 โมงเย็น ครอบครัวของเชฟรุ้ง มีน้องแมว 2 ตัว นกแก้ว 1 ตัว หมา 1 ตัว โดยคนที่สนิทจะรู้ว่า แมวของเชฟรุ้งจะมีสายจูงเหมือนหมา
ขณะที่กำลังเดินเล่นกันอยู่นั้น ก็มีเด็กชายวัย 12 ปี วิ่งเข้ามาลากและกระชากสายจูงแมวที่มีชื่อว่า “พอนซึ” ก่อนจะโยนน้องพอนซึขึ้นฟ้าและตกลงกระแทกพื้นอย่างแรง แต่เด็กชายก็ยังไม่หยุด กระชากแมวต่อไปอีก 3-4 ก้าว
ในตอนนั้น น้องพอนซึ พยามดิ้นกระชากออกจากสายจูงจนหลุด แล้ววิ่งหนีไปด้วยความตื่นตกใจสุดขีด ทำให้โรคหัวใจของพอนซึกำเริบ ส่วนเด็กคนดังกล่าวก็วิ่งกลับไปหาครอบครัว
พอรุ้งตั้งสติได้ ก็รีบวิ่งไปจับเอาพอนซึเอามากอดไว้ที่อกให้แน่น ทำให้พอนซึข่วนรุ้งตามแขน เพราะความที่แมวกลัวสุดขีดแล้วต้องการมีชีวิตรอด รุ้งพยายามปลอบพอนซึแล้วก็สังเกตเห็นเลือดที่ขาขวาหลังของพอนซึ พอตรวจดูก็เห็นว่าเล็บของแมวหลุดออกไปหมดทั้ง 5 นิ้ว คงเพราะแรงกระชากที่เด็กคนนั้นวิ่งไปนี่คือคำบอกเล่าของ เชฟรุ้ง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เชฟรุ้งช็อกมาก จึงหันกลับไปตะโกนใส่เด็กคนนั้นว่า “What did you just do?”
จากนั้น ครอบครัวของเด็ก ซึ่งมีกัน 8 คน ก็เริ่มตะโกนด่าทอด้วยคำหยาบ และตรงเข้ามารุมทำร้ายเธอ และสามี รวมถึงสัตว์เลี้ยงของเธอด้วย
เธอถูกแม่ของเด็กชายตะโกนด่าว่า “This is what you got when you walk your *** cat ***! (อย่ามาว่าลูกฉันนะ เธอนั่นแหละที่ผิด เอาแมวมาออกเดินทำไม?)
เชฟรุ้งกับแฟนพยายามอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พวกเขาฟัง แต่ไม่มีใครสนใจที่จะรับฟัง จากนั้นก็มีผู้ชายวัยรุ่นคนหนึ่งในกลุ่มนั้นเดินเข้ามาชกนกแก้ว ที่เกาะอยู่บนไหล่ของแฟน ทำให้นกแก้วตกใจเตลิดบินหนีไปแล้วไปตกอยู่ที่กลางถนน ตนต้องรีบวิ่งตามไปตะครุบนก เพราะกลัวว่ารถจะมาทับ พร้อมกับได้ยินเสียงหัวเราะสนุกสนานจากคนกลุ่มนั้นตามหลังมา
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ชายคนเดิมก็ทำท่าจะเตะหมาของตน แล้วก็ใช้มือดึงหางของหมาจนขาหลังลอยขึ้น จากนั้นตนก็มีปากเสียงกันกับอีกฝ่าย จู่ ๆ ลูกสาวของครอบครัวคู่กรณีก็เข้ามาตบหน้าตน ตนจึงสวนไปทีหนึ่ง เพื่อป้องกันตัว ตอนนั้นยอมรับว่าตกใจมาก จากนั้นผู้หญิง 3 คนก็เข้ามารุมทำร้ายตน ทั้งเตะ บีบคอ กระชากผม ตนได้แต่นอนขดอยู่ที่พื้นเพราะสู้แรงพวกนั้นไม่ได้
แฟนเชฟรุ้งพยายามห้าม แต่ไม่เป็นผล แถมยังถูกชกจนแว่นตาแตก จมูกหัก
จากนั้นก็มีผู้ชายผิวสี 2 คนเข้ามาช่วยยุติเหตุการณ์ทั้งหมด โดยผู้ชายผิวสีได้โกนถามว่า มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเธอต้องรุมทำร้ายเขาขนาดนี้ด้วย? แต่อีกฝ่ายกลับปัดความผิดมาให้เชฟรุ้ง โดยบอกว่าแมวรุ้งทำร้ายลูกเขาก่อน แล้วรุ้งก็ไปทำร้ายลูกของเขาด้วย ซึ่งคนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้น จะรู้ว่าที่พวกเขาพูดไม่เป็นความจริง
หลังเกิดเหตุราว 2 สัปดาห์ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ChaRee Pim ก็ได้โพสต์อัปเดตเรื่องราวว่า
ตำรวจรับเรื่องไป 2 อาทิตย์เปลี่ยนนักสืบไปทั้งหมด 3 คน นักสืบคนล่าสุดไม่ฟังความเลยแถมพูดจาหมิ่นประมาท ดูถูก เหยียดหยามและป้ายความผิดทุกอย่างมาที่เชฟรุ้ง ทำให้เชฟรุ้งรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรม และถูกคนในเครื่องแบบรังแก นี่คือสิ่งที่ตำรวจ (นักสืบ) พูด
1. ที่เธอโดนทำร้าย ก็เพราะว่าเธอไปตีเด็กคนนั้นก่อน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่มารุมกระทืบเธอหรอก
2. เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็เป็นเพราะเธอเอง ทำไมเธอไม่เดินกลับบ้านไป เรื่องจะได้จบ ไม่ต้องปานปลายจนทำให้แฟนของเธอถูกทำร้าย แล้วแมวเธอต้องมาตายก็เพราะเธอเอาชีวิตพวกมันออกมาเสี่ยงเอง อีกอย่างใครที่ไหนเขาเดินแมวกัน?
3. เธอหยุดใช้คำว่า “ลูกของชั้นโดนทำร้าย” ได้แล้ว เธออย่าเอาตัวของเธอมาเปรียบเทียบกับคนที่เป็นแม่ที่ให้กำเนิดลูกออกมาไม่ได้ แมวเธอมันก็แค่สัตว์เลี้ยงทั่วๆ ไป จะเอาชีวิตมันมาเทียบกันไม่ได้หรอกนะ
4. ถ้าเธอจะมาแสวงหาความยุติธรรมจากพวกฉัน เธอคงมาผิดที่แล้วล่ะ เพราะถ้าพวกฉันให้ความยุติธรรมกับพวกเธอได้ง่ายขนาดนั้น เรื่องของ George Floyd ก็คงไม่ยืดเยื้อมานานขนาดนี้หรอก
5. ตอนที่รุ้งปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าไปทำร้ายเด็ก ทำไมเธอถึงดื้อรั้นขนาดนี้นะ หัดรู้จักทำความเข้าใจอะไรให้มันง่ายๆ หน่อยสิ ฉันบอกว่าเธอผิดก็คือเธอผิดสิ เข้าใจไหม แล้วฉันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปถามพยานอะไรของเธออีกแล้ว เพราะว่าฉันเชื่อในสิ่งที่ฉันเห็นในวิดีโอทั้งหมด
ซึ่งในวิดีโอที่ตำรวจได้รับเป็นฉากที่รุ้งมีปากเสียงทะเลาะกันหลังจากที่ลูกๆ พวกรุ้งถูกพวกนั้นทำร้ายและตัวรุ้งกับแฟนโดนรุมทำร้ายร่างกายแค่นั้น ในวิดีโอไม่ได้โชว์เหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มเรื่อง
6. เธออยากได้ความยุติธรรมแล้วให้ฉันเชื่อว่าเธอไม่ได้เริ่มเรื่องใช่ไหม ถ้างั้นเธอก็ไปหาหลักฐานมาเพิ่มเองนะ (เขาเป็นนักสืบแต่ให้เราเป็นคนหาหลักฐาน)
8. อีกอย่างถ้าเธออยากจะให้ฉันจับพวกนี้เข้าคุก เรื่องอาจจะกลับตาลปัตรเป็นเธอเองที่ต้องเข้าไปนอนในคุก ข้อหาทำร้ายร่างกายเด็กก็ได้นะ ถ้าพวกนั้นจะเอาเรื่องเธอคืน (อันนี้รุ้งถูกปรักปรำและขู่ให้กลัวจะได้ยินยอมความ)
เรื่องนี้ทำให้ชาวทวิตเตอร์แห่ติดแฮชแท็ก #justiceforponzu เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเชฟรุ้ง จนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์
ต่อมา มีรายงานว่า หนึ่งในผู้ที่ทำร้ายเชฟรุ้ง ถูกตำรวจจับกุมตัวเเล้ว หลังจากที่เรื่องราวถูกแชร์ออกไปอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล
รอติดตามต่อนะคะ ว่าตำรวจจะจับคนที่ทำร้ายเชฟรุ้ง และน้องพอนซึจนตายได้ครบหรือไม่ ตอนนี้ #อีจัน กำลังพยายามติดต่อเชฟรุ้งแล้วนะคะ รออัปเดตได้เลยค่ะ!
