วันธรรมดาก็เฟี้ยวได้ อีจันชวนไป พิจิตร เมืองน่าเที่ยวสุดเจ๋ง ที่เที่ยวเพียบ

พิพรรธ ไทยเล็ก (เล็ก อีจัน) เผยแพร่เมื่อ : 5 ก.ย. 2567, 18:48 1

ทำไมต้องไปเที่ยว แค่วันหยุด?

วัยทำงานรู้ดี จะเที่ยวแต่ละที ต้องรอวันหยุด แต่ลูกเพจรู้ไหม? วันธรรมดาก็เที่ยวได้ เฟี้ยวไม่แพ้วันหยุดเลยนะ คนก็น้อยกว่า ที่เที่ยวก็เหมือนเดิม ใครไม่เคยลองต้องลองแล้ว วันนี้อีจันจะมาแนะนำที่เที่ยวเมืองรองอีกจังหวัดหนึ่ง นั่นคือ เมืองชาละวัน “พิจิตร” ที่เหมาะกับทั้งสายถ่ายรูปชิคๆ สายแอนเวนเจอร์ และสายมู ลองมาดูกันว่า 3 วัน 2 คืน วันธรรมดาที่พิจิตร มีอะไรน่าสนใจบ้าง ลอกได้เลยไม่หวงจ้าาา

วันแรก / ช่วงเช้า

เริ่มวันด้วยการเดินทางไป วัดท่าหลวง พระอารามหลวง กราบสักการะ หลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน ที่มีอายุกว่า 800 ปี วัดอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่านฝั่งตะวันตก ใครไปถึงแล้ว อีจันมีเคล็ดลับในการขอพรมาให้ด้วย ใครเดือดร้อนใจ ทุกข์ยาก ของหาย จะมาบนบานขออำนาจ หลวงพ่อเพชร ช่วยปัดเป่าให้พ้นทุกข์ และสมปรารถนา

จากนั้นเดินทางไปชมอาคารตึกปูนหลังแรกของวังกรด ณ “ตึกหลวงประเทืองคดี” หลักฐานชิ้นสำคัญที่บอกเล่าเรื่องราวของชาวเวียดนามที่อพยพเข้ามาอยู่ไทย พร้อมกับโฮจิมินห์ ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2

ต่อด้วยเดินเที่ยว “ชุมชนย่านเก่าวังกรด” แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Tourism Awards) สาขาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน นั่งรถรางสัมผัสเสน่ห์วิถีชีวิตชุมชน บ้านเรือน อาคารไม้เก่าแก่ ไหว้พระขอพร จากนั้น แวะชิมอาหารท้องถิ่น สาคูไส้หมูสูตรโบราณ แป้งบางไส้ทะลัก ราดด้วยกะทิสด และน้ำมะดาวดอง สูตรดั้งเดิม

ต่อด้วยกาแฟเด็ดๆจาก ร้านคาเฟ่ชิมฮง บรรยากาศสุดเฟี้ยว เช็คอินฟินๆ ถ่ายรูปชิคๆ เมนูเด็ดห้ามพลาดของร้านนี้คือ กาแฟลอดช่อง เปิดทุกวัน 9.00-16.00 น.

เดินทางไป พิพิธภัณฑ์บ้านดงโฮจิมินห์ ย้อนรอยประวัติศาสตร์การเดินทางของประธานาธิบดี โฮจิมินห์ ซึ่งจังหวัดพิจิตร ถือเปนพื้นที่แรกในไทย ที่ท่านโฮจิมินห์เดินทางมาถึง ภายในพิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ของท่าน และมีนิทรรศการจัดแสดงบอกเล่าประวัติความเป็นมา ในการตั้งถิ่นฐานที่จังหวัดพิจิตร

เที่ยวจนถึงช่วงเที่ยงๆ ก็ต้องรับประทานอาหารกลางวัน ร้านนี้เด็ด ร้านส้มตำปูนา คุณทิพย์ฟาร์มปูนาพิจิตร อ.เมือง ปูนาสด จากฟาร์ม ที่เขา เลี้ยงเอง-เพาะเอง-ขายเอง เมนูเด็ดห้ามพลาด เหลาปูนา ขนมจีนน้ำยาปูนา ห่อหมกมันปูนา เปิดทุกวัน 10.00-21.00 น. โทร : 091-042-4783

ช่วงบ่าย เดินทางไปยัง ชุมชนน่ารักที่ซ่อนอยูในพิจิตร ซึ่งทุกคนอาจจะยังไม่รู้จักมากนัก กับ “ชุมชนท่าฬ่อ” เดินชมบ้านเรือนเก่าแก่ที่ยังคงความคลาสสิคเอาไว้ จากนั้น แวะกราบสักการะขอพร “ศาลเจ้าแม่ทับทิมท่าฬ่อ” ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวพิจิตรและจังหวัดใกล้เคียง ที่สายมูนิยมเดินทางมาขอลูกกันที่นี่ ภายในศาลเจ้ามีองค์เจ้าแม่ทับทิมเป็นองค์ประธาน ถัดจากศาลเจ้ายังมี “โรงเรียนยกเอ็ง” ในอดีตเคยเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีนให้แก่คนไทย และสอนภาษาไทยให้แก่คนจีน ปัจจุบันภายในห้องเรียนได้ทำเป็นห้องจำลอง จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในสมัยก่อน มีชุดให้เปลี่ยนถ่ายรูปด้วย

พอเริ่มเหนื่อยๆก็ต้องแวะกินน้ำ แนะนำร้าน TURN ON COFFEE ร้านกาแฟคั่วเอง เมนูห้ามพลาด เอสเปรสโซ่เลมอนเชค เปิดทุกวัน 10.00-17.00 น. โทร : 098-007-8986

มาถึงจุดไฮไลท์ของวันนี้ นั่นคือ บึงสีไฟ แหล่งทองเที่ยวจุดแลนด์มาร์คของจังหวัดพิจิตร ไปนั่งชิลๆ ที่ริมบึง เช็คอิน บึงสีไฟ ชมพระอาทิตย์ตก ดูท้องฟ้า Vanilla Sky บริเวณลานสนามหญ้าสีเขียวริมบึง กับมุมต้นไม้ สบายตา อากาศสดชื่น ปิดท้ายวันแรก ด้วยดินเนอร์เด็ดๆ ร้านครัวต้นคูณ อาหารป่าท้องถิ่น รสชาติจัดจ้าน เมนูเด็ดห้ามพลาด กบผัดโหระพา ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม เปิดทุกวัน โทร. 081-039-2513 แล้วค่อยเข้าที่พัก

ต่อกันในวันที่ 2 เริ่มจากไปชม “วัดโพธิ์ประทับช้าง” วัดเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย หรือสมัยพระเจ้าเสือ ด้านหน้าวัดมีต้นตะเคียนยักษ์ อายุกว่า 200 ปี เป็นที่อยู่ของฝูงนกแก้ว ภายในบริเวณวัดมีพระวิหารสูงล้อมรอบกำแพงสองชั้นซึ่งวัดโพธิ์ประทับช้าง ไดรับประกาศให้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เมื่อปี พ.ศ.2478 จากกรมศิลปากร ซึ่งผู้คนนิยมเดินทางมาขอพรเรื่องงาน

จากนั้นเดินทางไปยัง อ.ตะพานหิน แวะชิม “กาแฟโกยี” ท่งหลี สาขา 1 กาแฟดีมีทีเด็ด รสชาติเข้มข้นสไตล์ “ตะพานหิน” ดั้งเดิม คลาสสิค แถมมีเมนูเด็ดห้ามพลาด โอเลี้ยงคั่วเอง เปิดทุกวัน 05.00-14.00 น. สอบถามได้ที่ โทร. 081-740-0300 รับประทานอาหาร เซียมชวนชิม บะหมี่ชาละวัน อ.ตะพานหิน บะหมี่เส้นสดทำเอง ไม่มีเฟรนชายส์ ใสใจในทุกๆขั้นตอน ตั้งแต่เส้นบะหมี่และหมูแดง เปิด 10.30-14.00 น. หยุดวันอาทิตย์ โทร 089-564-4894

กินอิ่มแล้วก็ต้องเที่ยวต่อ เดินทางชม “บ้านเก่าเสาปั้นจั่น” บ้านเก่าแก่ใน อ.ตะพานหิน ที่ในอดีตเคยใช้เป็นสถานประกอบการต่างๆ มากมาย จนยุคร่วงโรย ก็ถูกปิดลงแต่ยังคงเก็บรักษาสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ไว้ในบ้านมากมาย ในปัจจุบัน ได้ปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ เอาไว้ให้เข้าชมและเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ในอดีต ของพิจิตร

เสร็จแล้วเดินข้ามฝั่งมาถ่ายภาพสวยๆ โดนใจ GEN Y ที่ “Street Art ตะพานหิน” ตั้งอยู่บริเวณสะพานรัฐราษฎร์รังสรรค์ ในต.ตะพานหิน ริมแม่น้ำน่าน ซึ่งเป็นงานศิลปะร่วมสมัย ภายใต้ชื่อ สะพานสานศิลป์ (Bridge Art Taphanhin) ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ประเพณี ศิลปวัฒนธรรมของเมืองตะพานหิน และยังมีภาพวาดเกี่ยวกับภาพยนตร์ การ์ตูน และพญาชะลาวัน ซึ่งเป็นจระเข้ยักษ์ในตำนาน ของเมือง พิจิตรอีกด้วย

ก่อนจะกลับไปพักผ่อน ต้องอย่าลืมรับประทานอาหาร ที่ร้านเลี้ยงหงกี ร้านอาหารจีนเก่าแก่ของ ตะพานหิน ที่มีอาหารเด็ด คือ เป๋าฮื้อเส้น กับ หอยจ๋อ เปิดทุกวัน 09.30-20.00 น. ติดต่อจองโต๊ะได้ที่ โทร. 056-621-316

วันสุดท้ายที่พิจิตร ก่อนกลับต้องไม่ลืมเดินทางไปทำบุญ ที่วัดสุขุมาราม อ.บางมูลนาก ไหว้พระนอนที่เป็นองค์ใหญ่อันดับ 3 ของประเทศไทย นมัสการพระพุทธไสยาสน์ ยาว 55 เมตร ที่ประดิษฐานอยู่ภายในอาคารที่สวยงาม ออกแบบศิลปะรวมสมัย และเป็นสถานปฏิบัติธรรมอีกด้วย

ร้านเด็ดอีกร้านที่พลาดไม่ได้ก่อนจะกลับ คือร้าน โง้ว เซ็ก บี่” ร้านเก่าเเก่ใน อ.บางมูลนาก ที่เปิดขายมานานกว่า 60 ปี มีเมนูโกยซีหมี่ที่หาทานได้ยาก ราดหน้าเส้นใหญ่ จุดเดนคงอยู่ที่เส้นหมี่ที่มีกลิ่นหอมกระทะ ร้าน

เปิดทุกวัน 06.30-13.30 น. โทร. 056-631-120 กินอิ่มก็เดินทางไปต่อกันที่ “ศาลเจ้าบางมูลนาก หรือศาลเจ้าพ่อแก้ว” ซุ้มประตูของศาลเจ้ามีการประดับประดา ตกแต่งด้วยสัตว์ในตำนานตามความเชื่อของชาวจีน และเมื่อขึ้นไปยังชั้นที่ 2 จะพบองค์เจ้าพ่อแก้ว ทำจากไม้แกะสลัก อยู่ตรงกลาง ซึ่งผู้คนนิยมเดินทางมาขอบุตรที่นี่กันมากมาย

ไหนๆก็มาบางมูลนากแล้ว ต้องไปชมวิถีชีวิตชาวบ้าน “ชุมชนบางมูลนาก” เที่ยวชม Street Art อำเภอบางมูลนาก ภาพเขียนฝาผนังที่ประตูบานไม้ของชุมชนบางมูลนาก อีกทั้งยังมีร้านอาหารเด็ดๆ เป็นของฝากมื้อเย็น คือ ตือฮวน เครื่องในเปื่อย ละลายในปาก ปิดท้ายทริปด้วย “FOR-EST CAF” คาเฟ่สไตล์วินเทจ บรรยากาศสบายๆ ให้บริการทั้งอาหารและเครื่องดื่ม เปิดทุกวัน 08.00-19.30 น. โทร. 063-578-4887