
(11 ก.ค. 68) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย หวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้พบปะหารือนอกรอบ เพื่อย้ำความร่วมมือระหว่างสองประเทศในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการส่งเสริมสันติภาพในภูมิภาค โดยเฉพาะข้อพิพาทบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

หวัง อี้ กล่าวว่า จีนยินดีร่วมมือกับไทยในการผลักดันการสร้าง “ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน” ให้ยกระดับสูงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในวาระที่ทั้งสองประเทศกำลังเฉลิมฉลอง “ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย” เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ในปี 2025 พร้อมย้ำว่า จีนพร้อมสนับสนุนไทยในการกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาที่เหมาะสมกับบริบทประเทศ และผลักดันสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสู่ระดับสูงและมีสาระสำคัญยิ่งขึ้น
หวัง อี้ กล่าวเรียกร้องการกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนา และบูรณาการผลประโยชน์ระหว่างสองฝ่ายให้สอดคล้องกันมากขึ้น พร้อมเสนอการบ่มเพาะตัวขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ในด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน และการพัฒนาสีเขียวอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระตุ้นการเร่งสร้างทางรถไฟ จีน-ไทย เพื่อใช้ประโยชน์จากโครงการสำคัญต่าง ๆ มาส่งเสริมวิสัยทัศน์การพัฒนาการเชื่อมต่อของจีน ลาว และไทย

นอกจากนี้ หวัง อี้ ได้กล่าวถึงประเด็นการค้าโลก พร้อมวิจารณ์ว่าสหรัฐฯ เป็นบ่อนทำลายระบบการค้าเสรี ปั่นป่วนในห่วงโซ่อุตสาหกรรมและอุปทาน ด้วยนโยบายจัดเก็บภาษีศุลกากรแบบฝ่ายเดียว จีนจึงเรียกร้องให้ไทยและอาเซียนร่วมปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจตามกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมประกาศความตั้งใจจะลงนามใน พิธีสารเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน เวอร์ชัน 3.0 ภายในปี 2025 เพื่อยืนยันการสนับสนุน WTO และระบบพหุภาคีอย่างจริงจัง
สำหรับประเด็นตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา หวัง อี้ กล่าวว่า จีนในฐานะมิตรสหายของทั้งไทยและกัมพูชา หวังให้ทั้ง 2 ประเทศจัดการปัญหาผ่าน “การเจรจาและปรึกษาหารืออย่างมีไมตรีจิต” เพื่อลดทอนความตึงเครียดและฟื้นฟูเสถียรภาพในเร็ววัน โดยจีนจะยังคงรักษาจุดยืนเป็นกลางและเป็นธรรม พร้อมดำเนินบทบาทเชิงสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพกับไทยและกัมพูชา

ขณะเดียว นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย กล่าวว่า จีนและไทย ได้รักษาความไว้วางใจต่อกัน และเคารพผลประโยชน์หลักของอีกฝ่ายตลอดระยะเวลา 50 ปี นับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต โดยจิตวิญญาณ “ไทยจีนใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ยังคงยืนหยัด และการสร้างประชาคมไทย-จีนที่มีอนาคตร่วมกันยังคงปรากฏผลลัพธ์อันเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ นายมาริษย้ำว่า การแก้ไขพิพาทชายแดน ไม่ควรใช้กำลัง พร้อมขอบคุณจุดยืนอันเป็นกลางและสมดุลของจีนในการไกล่เกลี่ยและส่งเสริมการเจรจา โดยไทยมุ่งมั่นจะแก้ไขข้อพิพาทกับกัมพูชา ผ่านช่องทางทวิภาคี ด้วยความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและไมตรีจิต
ขอบคุณข้อมูล : สำนักข่าวซินหัว (XINHUA)