เชื่อว่าใครๆก็คงจะรู้จักกันดีกับของเล่นน่ารักที่เคยเป็นกระแสสุดๆ อย่าง Labubu ใช่ไหมคะ? แต่ล่าสุด เจ้าตุ๊กตาหน้าฟันแหลมตัวนี้กลับกลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อมีทฤษฎีบนโซเชียลโยงว่ามันอาจจะไม่ได้น่ารักอย่างที่คิด!
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 68 ที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศ เผยเรื่องราวที่กำลังเป็นไวรัล หลังโลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับ ปีศาจสิง “ลาบูบู้” ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงของคนบางกลุ่มในโซเชียลของประเทศจีน โดยได้ระบุว่า…
แฟนคลับเผาตุ๊กตา Labubu หวั่นคล้ายปีศาจ Pazuzu จุดกระแสถกเถียงในจีน ตุ๊กตา Labubu ที่กำลังเป็นที่นิยมในจีน กลายเป็นประเด็นดราม่าบนโลกออนไลน์ หลังมีทฤษฎีสมคบคิดว่าอาจมีปีศาจสิงอยู่ในตัวตุ๊กตา นำไปสู่การที่แฟนคลับบางรายถึงกับเผาตุ๊กตาทิ้ง Labubu เป็นตุ๊กตาขนนุ่มหน้าตาน่ารักจากบริษัท Pop Mart ของจีน ออกแบบโดยศิลปินฮ่องกง Kasing Lung โดยจุดเด่นคือลักษณะฟันแหลม 9 ซี่ที่ทำให้ดูซุกซนและขี้เล่น แต่ไม่นานมานี้ ลักษณะเฉพาะตัวนี้กลับกลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อมีผู้ใช้โซเชียลนอกประเทศจีนบางรายนำไปเปรียบเทียบกับ Pazuzu ปีศาจจากตำนานเมโสโปเตเมียยุคโบราณ (ราวพันปีก่อนคริสตกาล) ที่มีใบหน้าเหมือนสิงโตหรือสุนัข และดวงตานูนโต ลักษณะที่คล้ายคลึงกันในภาพการ์ตูนที่วาดปีศาจตนนี้ยิ้มเผยฟันแหลม ทำให้หลายคนรู้สึกว่าเหมือน Labubu บางคนแสดงความกังวลว่าการเก็บตุ๊กตาไว้ในบ้านอาจทำให้ถูกปีศาจเข้าสิงได้ โดยมีผู้ใช้งานจากต่างประเทศรายหนึ่งถึงขั้นเผาตุ๊กตาของตัวเอง พร้อมโพสต์วิดีโอลงออนไลน์
อย่างไรก็ตาม Kasing Lung ผู้ออกแบบ Labubu เคยให้สัมภาษณ์ว่าแรงบันดาลใจมาจากตำนานภูติในยุโรปยุคโบราณ โดยเริ่มต้นสร้างตัวละครนี้ขึ้นเมื่อราว 10 ปีก่อนในผลงานชุด “The Monsters” ซึ่งรวมถึงตัวละครอื่นอย่าง Tycoco และ Zimomo ด้วย เขาเริ่มร่วมมือกับ Pop Mart ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 ซึ่งปัจจุบันมีการผลิตตุ๊กตา The Monsters มากกว่า 300 แบบ ทั้งขนาด สี และชุดแตกต่างกัน โดยวางขายในรูปแบบ blind box (สุ่มแบบไม่รู้ว่าจะได้ตัวไหนจนกว่าจะเปิดกล่อง)
Labubu ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะหลังจาก ลิซ่า สมาชิกวง BLACKPINK แสดงความชื่นชอบ ทำให้สินค้าถูกขายหมดอย่างรวดเร็ว กล่องสุ่มหนึ่งกล่องที่ปกติราคา 99 หยวน (ประมาณ 500 บาท) สามารถพุ่งไปหลายร้อยหยวนในตลาดมือสอง ส่วนตัวหายากพิเศษบางตัวอาจขายได้มากกว่า 2,000 หยวน
Pop Mart รายงานรายได้ทั่วโลกช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นกว่า 200% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รวมเป็น 13.7 พันล้านหยวน (ประมาณ 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามรายงานของสื่อจีน The Paper
ในขณะเดียวกัน ผู้ใช้รายหนึ่งได้แสดงความเห็นถึงกระแสทฤษฎีปีศาจที่ลุกลามไปถึงโซเชียลมีเดียจีนด้วยเช่นกัน โดยแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ ลาบูบู้ ว่า … “ฉันก็ว่ามันดูน่ากลัวอยู่แล้ว” และอีกรายบอกว่า “ฉันก็ไม่ชอบรูปลักษณ์ของมันเท่าไหร่ แต่ได้ยินว่าซื้อ Labubu นำมาซึ่งโชคลาภ และมันก็นำโชคมาให้ฉันด้วยเพราะราคาของมันพุ่งสูงขึ้น” ขณะที่อีกรายให้ความเห็นว่า “ฉันคิดว่าลาบูบูน่ารักดี เราคงคาดหวังให้มันดูเหมือนมนุษย์ไม่ได้หรอก เพราะพวกมันเป็นเอลฟ์”
เรื่องนี้อาจฟังดูเหลือเชื่อสำหรับบางคน แต่ก็ทำให้เห็นพลังของความเชื่อและโซเชียลมีเดียได้อย่างชัดเจน
แล้วลูกเพจ “อีจัน”ล่ะคิดว่า Labubu เป็นแค่ของเล่นน่ารักธรรมดา หรือมีบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจเวลาเห็นมันกันแน่? แสดงความคิดเห็นกันได้นะคะ
ที่มา: My News