ผ่านไป 5 วัน สงครามอิสราเอลและอิหร่าน ยังไม่มีทีท่าจะสงบ ล่าสุดอิสราเอลบุกถล่มเตหะรานอย่างหนัก จน “ทรัมป์” ต้องแจ้งให้ประชาชน รีบอพยพออกจากพื้นที่
(16 มิ.ย. 68) สื่อต่างประเทศ รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศให้ชาวเตหะราน อพยพจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด หลังจากอิสราเอลเดินหน้าถล่มอย่างหนัก พร้อมแนะ “อิหร่าน” ควรลงนามข้อตกลงนิวเคลียร์โดยเร็ว
ทำเนียบขาวแถลงการณ์ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มีกำหนดออกจากการประชุมสุดยอด G7 ที่แคนาดาในช่วงบ่ายวันจันทร์ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดหนึ่งวัน เนื่องจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง พร้อมเตรียมเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ
“อิหร่านควรลงนามใน “ข้อตกลง” ที่ฉันบอกให้พวกเขาลงนาม เป็นเรื่องน่าเสียดายและเป็นการสิ้นเปลืองชีวิตมนุษย์ พูดง่าย ๆ ก็คืออิหร่านไม่สามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ได้ ฉันพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกคนควรอพยพออกจากเตหะรานทันที” ทรัมป์กล่าวบน Truth Social
ด้าน เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวถึงเหตุผลที่ทรัมป์ออกจากการประชุม G7 ก่อนกำหนดนั้นถือเป็นเรื่องดี ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อให้อิสราเอลและอิหร่านตกลงหยุดยิงตามข้อเสนอจากสหรัฐฯ
“มีข้อเสนอเกิดขึ้น โดยเฉพาะการหยุดยิงและการเริ่มการหารือในวงกว้างมากขึ้น และผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ดีมาก ดังนั้น ตอนนี้เราต้องดูว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะทำอย่างไร” มาครง กล่าว
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ความวุ่นวายระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ยังเดือดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด อิสราเอล ได้ส่งอาวุธพุ่งโจมตีพื้นที่เตหะราน เช่นเดียวกับสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ที่ได้รับแรงสั่นสะเทือนจากความรุนแรงระหว่างออกอากาศ ซึ่งภายหลังได้รับการยืนยันว่า สถานีดังกล่าวถูกโจมตีด้วยระเบิด 4 ลูก
เอสมาอิล บาไก โฆษกของรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ประณามการโจมตีครั้งนี้ และเรียกร้องให้ประชาคมโลกเรียกร้องความยุติธรรมจากอิสราเอลสำหรับการโจมตีสื่อ ระบุว่า “โลกกำลังจับตาดูอยู่ การโจมตีสำนักงานสำนักข่าว #IRIB ของอิหร่านระหว่างการถ่ายทอดสด ถือเป็นการก่ออาชญากรรมสงครามที่ชั่วร้าย”
ขอบคุณข้อมูล : DW