นักวิชาการวิเคราะห์ ฟางเส้นสุดท้าย ฮามาส เปิดฉากโจมตี อิสราเอล

เมื่อวันที่ 7 ต.ค.66 สื่อต่างประเทศรายงานข่าวว่ากลุ่มฮามาสได้ยิงจรวดจากบริเวณฉนวนกาซาโจมตีไปยังหลายพื้นที่ในประเทศอิสราเอล ก่อนที่กองกำลังภาคพื้นดินจะบุกเข้าทำร้ายและจับประชาชนชาวอิสราเอลไปเป็นตัวประกันหลายรายโดยเฉพาะผู้หญิงและเด็ก รวมถึงคนไทยที่เดินทางไปทำงานก็ถูกจับเป็นตัวประกันด้วยเช่นกัน ต่อมาทางรัฐบาลอิสราเอลได้ประกาศทำสงครามตอบโต้ กลุ่มฮามาสโดยเปิดฉากโจมตีด้วยจรวดเข้าไปยังบริเวณฉนวนกาซา ก่อนที่สถานการณ์จะเริ่มบานปลายมากขึ้น เมื่อกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่อยู่ในพื้นที่ประเทศเลบานอนได้ร่วมโจมตีอิสราเอลด้วยเช่นกัน 

ล่าสุด ดร.ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ได้วิเคราะห์สถานการณ์สู้รับระหว่างฮามาสกับอิสราเอล ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย  Inside Thailand ออกอากาศทางช่อง 9 MCOT ว่า “หากใครที่ติดตามข่าวระหว่างปาเลสไตน์มาอย่างต่อเนื่องจะพบว่ามีความหนักข้อขึ้นในช่วงหลาย โดยเฉพาะเมื่ออิสราเอลเปิดปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธในค่ายผู้ลี้ภัยเจมิน ที่อยู่ในเขตเวสต์แบงค์หลายครั้ง” 

“รวมถึงมีการขยายนิคมชาวยิวและอิสราเอลเองก็พึ่งได้รัฐบาลใหม่ ซึ่งเป็นรัฐบาลที่สื่อขนานนามว่าเป็นรัฐบาลขวาจัดแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ ก็คือจะไม่ยอมให้มีการตั้งรัฐปาเลสไตน์อย่างเด็ดขาด รวมถึงการบุกเข้าไปยังมัสยิดอัล-อักซอ ของทหารอิสราเอลพร้อมทำร้ายผู้ที่กำลังปฏิบัติศาสนกิจหลายครั้งตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มันจึงเป็นเหตุการณ์สะสมต่อเนื่อง จนทำให้ฮามาสตัดสินใจตอบโต้อิสราเอล จริงๆ พื้นที่ที่กลุ่มอามาสปกครองอยู่ในฉนวนกาซา ก็ถูกปิดล้อมโดยอิสราเอล ซึ่งก็มีการปะทะกันอยู่เป็นระยะและอิสราเอลก็ส่งเครื่องบินรบตอบโต้ แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกเมื่อฮามาสแหกฝ่าวงล้อมและบุกเข้ามาโจมตีอิสราเอล”

“ส่วนเหตุผลที่กลุ่มฟาตาห์เองซึ่งเป็นรัฐบาลปาเลสไตน์และอยู่ในเขตเวสต์แบงค์ทำไมไม่เป็นฝ่ายตอบโต้เองนั้น เนื่องจากรัฐบาลฟาตาห์เป็นรัฐบาลที่เกิดจากกระบวนการออสโล หรือการเจรจาสันติภาพ ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ตลอดช่วงที่ผ่านมาก็ได้เงินสนับสนุนจากภายนอก รวมถึงผู้นำของปาเลสไตน์ก็ทำงานร่วมกับสหรัฐอเมริกา และฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอล ทำให้ท้ายที่สุดกลุ่มฟาตาห์ได้แตกหักกับกลุ่มฮามาส 

นอกจากนี้พื้นที่ในเขตเวสต์แบงค์นั้นทหารอิสราเอลได้มีกำลังทหารควบคุมอยู่การที่จะมีใครลุกฮือแสดงความไม่พอใจนั้นเป็นไปได้ยาก ส่วนฉนวนกาซานั้นทหารอิสราเอลไม่สามารถเข้าไปควบคุมในพื้นที่ได้เลย ซึ่งตอนนี้อิสราเอลกำลังเจอการสู้รบแบบกองโจร ซึ่งอิสราเอลเคยพ่ายแพ้ในการสู้รบแบบนี้กับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนมาแล้ว และตอนนี้กลุ่มฮามาสได้เจรจาขอความร่วมมือจากกลุ่มอื่นๆให้รวมใจกัน รวมถึงกลุ่มติดอาวุธในซีเรียที่มีอิหร่านให้การสนับสนุนก็พร้อมที่จะร่วมโจมตีกับกลุ่มฮามาสด้วย  

ซึ่งนี่ถือเป็นเรื่องแปลกที่อิสราเอลกำลังเผชิญ ส่วนซีเรียทำไมถึงอยากจะผสมโรงโจมตีด้วยนั้น เนื่องจากกองกำลังติดอาวุธต้องการดินแดนโกลานที่อิสราเอลควบรวบเป็นดินแดนของตัวเองก่อนหน้านี้ ส่วนจะไปถึงขั้นสงครามโลกไม่นั้นก็ต้องติดตาม และที่สำคัญต้องจับตาดูว่าอิหร่านที่สนิทกับรัสเซียจะเข้ามามีส่วนร่วมไหม  

ทั้งนี้ จากการบุกโจมตีในครั้งนี้ของกลุ่มฮามาส ทำให้ชาวอิสราเอลเสียชีวิตแล้วกว่า 700 คน บาดเจ็บอีกกว่า 2,000 คน รวมถึงมีประชาชนถูกจับเป็นตัวประกันจำนวนมากเช่นกัน