กลายเป็นข่าวที่ทำให้สายชานมเลิฟเวอร์สะดุ้งไม่น้อยเลยทีเดียว หลังมีการเปิดเผยผลวิจัยจากประเทศจีนออกมาว่า ผู้ที่ดื่มชานมไข่มุกมาก หรือเสพติดชานมไข่มุก มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการป่วยทางจิต หรือโรคซึมเศร้า
ผลวิจัยดังกล่าวถูกตีพิมพ์ผ่านวารสาร Journal of Affective Disorders เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2566 ว่า การบริโภคชานมนั้นอาจทำให้เกิดอาการเสพติด เช่น ความอยากหรือการต้องการสิ่งนั้น โดยไม่สามารถหยุดได้ และความรู้สึกผิด หากอยู่ในภาวะการเสพติดหรือมีความต้องการที่สูงมากนั้นอาจส่งผลให้เกิดอาการป่วยทางจิตเวชได้ เช่น ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า และอาจร้ายแรงถึงขั้นมีความคิดฆ่าตัวตาย
การวิจัยดังกล่าว ดำเนินการโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยซิงหัวและมหาวิทยาลัยการเงินและเศรษฐศาสตร์กลาง ในกรุงปักกิ่ง ได้ทำการสำรวจข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างนักเรียน, นักศึกษา 5,281 คน จากเมืองหลวงของจีน โดยเกือบครึ่งหนึ่งนั้นพบว่าดื่มชานมอย่างน้อยหนึ่งแก้วต่อสัปดาห์
โดยทีมวิจัยได้ใช้มาตรการวัดระดับการเสพติดการดื่มชานมตามแนวทางการใช้สารเสพติดจากคู่มือการวินิจฉัยและสถิติความผิดปกติทางจิต (DSM-5) ฉบับที่ 5 โดยผู้เข้าร่วมยังรายงานด้วยว่าพวกเขามีอาการที่เกี่ยวข้องกับความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า และความคิดฆ่าตัวตายหรือไม่ ซึ่งผลจากการศึกษาพบว่า คนหนุ่ม-สาววัยเรียนนั้น เลือกที่จะดื่มชานมไข่มุกโดยหวังใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุมอารมณ์ หรือการดื่มชานมไข่มุกนั้นจะช่วยให้เกิดการผ่อนคลายในเรื่องต่างๆ แต่กลับกันด้านนักวิจัยมองว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล หรือมีความหวาน อาจส่งผลให้เสียต่อจิตใจ เทียบเท่ากับการติดโซเชียลมีเดียหรือยาเสพติด
อย่างไรก็ตามในอนาคต ทีมนักวิจัยมีการวางแผนไว้ว่า จะศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และติดตามระยะเวลาการบริโภคที่ยาวนานกว่าเดิม รวมถึงมีแผนที่จะเสนอแนวทางและมาตรการป้องกันปัญหาสุขภาพการและสุขภาพใจ ที่เกี่ยวข้องกับการดื่มชานมไข่มุกอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : nextshark.com, sciencedirect.com